คำต่อคำ "พล.อ.อุดมเดช" เผยกลุ่มการเมืองสนับสนุน นศ.-เตือน "อย่าให้มากไปกว่านี้"

การเมือง
26 มิ.ย. 58
06:23
105
Logo Thai PBS
คำต่อคำ "พล.อ.อุดมเดช" เผยกลุ่มการเมืองสนับสนุน นศ.-เตือน "อย่าให้มากไปกว่านี้"

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบกให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางไปเปิดอาคารที่ทำการกรมทหารม้าที่ 7 กองพลทหารม้าที่ 3 ขอนแก่น ถึงกรณีนักศึกษาเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ว่า เจ้าหน้าที่พยายามไม่ใช้มาตรการรุนแรงและสร้างความเข้าใจ พร้อมกับเปิดเผยว่ามีรายชื่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่ไม่พอใจการบริหารของรัฐบาลสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักศึกษา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ และจะเน้นการทำความเข้าใจต่อไป

การแสดงความเห็นของ ผบ.ทบ.มีขึ้นหลังจากที่นักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากการจัดกิจกรรม 1 ปีรัฐประหารที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น มารวมตัวกันที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2558 เพื่อแจ้งความกลับตำรวจที่ใช้กำลังกับนักศึกษาพร้อมกับประกาศไม่ยอมรับอำนาจคณะรัฐประหารและประกาศตั้ง "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" ต่อจากนั้นเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) นักศึกษากลุ่มดาวดินและนักศึกษาที่มีหมายเรียกจากการทำกิจกรรมหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครไปทำกิจกรรมที่สถานที่สำคัญในการเรียกร้องประชาธิปไตยในอดีต ได้แก่ อนุสรณ์ 6 ตุลา 2519 ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม และอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาในช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้นยังพอยอมรับได้ แต่อย่าขยายให้มากไปกว่านี้

"ประชาชนคงเห็นความอดทนของเจ้าหน้าที่ที่พยายามไม่ใช้มาตรการรุนแรง ก่อนที่นักศึกษาจะออกมานั้นก็ได้มีความพยายามทำความเข้าใจในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็อาจจะมีความไม่เข้าใจอยู่จึงแสดงออกอย่างนี้ ผมอยากจะบอกว่า เรารับรู้รับทราบว่ามีการสนับสนุนจากกลุ่มหรือคนที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ขณะนี้รู้ชื่อแล้วว่าใคร ให้การสนับสนุนอย่างไรบ้าง แต่ผมไม่อยากจะเอ่ยออกมาเท่านั้นเอง เราพยายามจะสร้างความเข้าใจเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ผมไม่สบายใจที่มีการแสดงออกอย่างนั้น  ผมคิดว่าแนวทางของเขาคืออยากให้มีการรวมตัวมากขึ้นจากกลุ่มเล็กเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น เราก็รู้อยู่ว่าเป็นแผนการณ์ให้เกิดความไม่สงเบรียบร้อย แต่ผมมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย ถ้าเหตุการณ์ไม่เรียบร้อย มีกลุ่มที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนและบานปลายขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนอีก มีการรวมตัวปิดถนน มีการพ่นสีสเปรย์เลอะเทอะทั่วกรุงเทพฯ เมื่อมีกลุ่มหนึ่งทำแบบนี้ อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่พอใจก็จะกระทบกระทั่งกัน ถนนหนทางใช้ไม่ได้ สถานที่ที่เราจะไปซื้อของหรือติดต่อราชการก็ผ่านไม่ได้ ทุกอย่างติดขัด จนกระทั่งจะเริ่มมีการใช้อาวุธสงคราม ระเบิดต่างๆ ผมถามว่าถ้าเป็นญาติพี่น้องท่านบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์เหล่านี้มันดีหรือไม่อย่างไรก็ไปคิดดู

"ตอนนี้กลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มเล็กอยู่ ผมขอความร่วมมือจากผู้ปกครองช่วยกันดูแล อย่าให้สิ่งเหล่านี้กลับมาเกิดขึ้นเลย เมื่อเกิดความไม่เรียบร้อย มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต ราชการก็ต้องกลับมาใช้กำลังในการดูแลพื้นที่ ผมขอร้องให้สถานศึกษาครูอาจารย์ดูแล ไม่ใช่มาบอกเพียงว่าแสดงออกได้เพราะในสถานการณ์อย่างนี้ เราบอบช้ำมากแล้วจะให้เหตุการณ์กลับมาเกิดขึ้นอีกจากคนกลุ่มเล็กๆ เหล่านี้หรือ เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจและอดใจไว้ ทางคสช. และรัฐบาลได้มีช่องทางแสดงความคิดเห็นหลายช่องทาง ทั้งเปิดเวที เชิญเข้ามาพูดคุย ขณะนี้ก็ดำเนินการอยู่ บางคนบอกว่าไม่ได้ผลแต่เราก็พยายาม  นายกฯ และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงก็สั่งการมาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ดำเนินการ จัดให้มีการพูดคุย ผมคิดว่าน่าจะครอบคลุม แต่หากไม่ครอบคลุมอย่างไร ติดต่อเสนอมาได้เลยและเราจะรวบบรวมให้ฝ่ายที่แก้ปัญหา เช่น สนช. และคณะกรรมการชุดต่างๆ

"ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ต้องอย่าให้สิ่งนี้ขยายต่อไป ทางราชการก็อดทน ดูแลและปฏิบัติด้วยความเข้าใจ ให้โอกาสกัน สำหรับการเคลื่อนไหวในช่วง 2 วันที่ผ่านมาถือว่าเป็นการแสดงออก พอยอมรับได้ พออดทนได้ก็จะอดทน แต่อย่าให้มันมากมายใหญ่โตไปกว่านี้เลย มันจะทำความเสียหาย ทำให้สิ่งต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายต่อประชาชนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง แล้ววันนั้นทุกคนก็จะเสียใจว่าทำไมเหตุการณ์ถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก"

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะไปพูดคุยกับกลุ่มการเมืองที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษา จะไม่ปล่อยปละละเลยแน่นอน

ผบ.ทบ.ยังได้กล่าวถึงรายงานข่าวที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงติดตามนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า ไม่ได้เป็นการใช้ความรุนแรง แต่เป็นการพยายามทำความเข้าใจ

"เมื่อเราเห็นว่าในบางกรณี การเชิญตัวมาเป็นเรื่องไม่เหมาะสมในบางกรณีหรือบางบุคคล เราก็จะให้เกียรติไปพูดคุย ถือว่าไม่ได้เป็นความนรุนแรงและเป็นเรื่องที่เหมาะสมเพราะเป็นการไปการทำความเข้าใจ" พล.อ.อุดมเดชกล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง