วันนี้ (9 พ.ค.2564) ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จับแรงงานชาวเมียนมาได้อีก 33 คน ขณะหลบซ่อนอยู่ในป่าบริเวณเขาสิงโต สอบสวนกลุ่มแรงงานทราบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ที่ จ.เมาะละแหม่ง ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทย เป้าหมาย คือ สมุทรปราการ ราชบุรี และ กรุงเทพมหานคร โดยมีคนนำพาเดินลัดเลาะตามชายป่าและหุบเขา แต่ระหว่างรอคนมารับถูกจับได้เสียก่อน
เฝ้าระวังการลักลอบข้ามฝั่งจากประเทศมาเลเซีย
ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ต้องเพิ่มความถี่ลาดตระเวณแนวชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย ใน ต.บาโหย และ ต.เขาแดง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเท้าประมาณ 35 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังตั้งด่านตรวจในหมู่บ้านพื้นที่ล่อแหลม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้และสายพันธุ์อินเดียที่กำลังระบาดในประเทศมาเลเซีย
และจากการตรวจสอบบริเวณแนวรั้ว พรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้านอำเภอสะเดาพบว่า มีช่องโหว่ ที่ใช้เป็นช่องทางในการเดินข้ามระหว่างกันได้อย่างสะดวก หลายจุด จึงขอความร่วมมือชุมชนให้ร่วมกันสอดส่องดูแล
ท่าขี้เหล็กเริ่มเปิดสถานบันเทิงหวั่นลักลอบข้ามแดน
ที่ จ.เชียงราย กองกำลังผาเมือง เพิ่มการลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา รวมไปถึงชายแดนไทย-ลาว ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะตามเส้นทางธรรมชาติ หลังสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และคาสิโน ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กลับมาเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบ และมีกลุ่มนักเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกันอย่างคึกคัก ทำให้ทางคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดเชียงรายเกรงจะมีการลักลอบข้ามแดนและเกิดการแพร่ระบาดเหมือนช่วงปลายปีก่อน
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และในฐานะโฆษก สตม. เปิดเผยว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังคงเข้มงวดเรื่องการหลบหนีเข้าเมืองตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 แต่ยอมรับว่าปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ลักลอบเข้าประเทศช่องทางปกติ โดยสามารถจับกุมดำเนินคดีได้ แต่ส่วนที่ใช้ช่องทางธรรมชาติยังเป็นอุปสรรคในการติดตามจับกุม
ขณะที่กองทัพบกรายงานว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ใน 3 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และสระแก้ว รวม 73 คน แต่หากรวมตัวเลขการลักลอบตั้งแต่เดือน เม.ย. ถึงปัจจุบัน รวม 306 คน