ผู้ต้องขังติดโควิดเพิ่ม 842 คน กำลังรักษาตัว 14,049 คน

สังคม
21 พ.ค. 64
16:04
3,899
Logo Thai PBS
ผู้ต้องขังติดโควิดเพิ่ม 842 คน กำลังรักษาตัว 14,049 คน
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงสถานการณ์ COVID-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ล่าสุด มีผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 842 คน กระจายในเรือนจำและทัณฑสถาน 12 แห่ง รักษาหายแล้ว 319 คน รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,049 คน

วันนี้ (21 พ.ค.2564) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูลล่าสุด เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่จำนวน 842 คน รักษาหาย 319 คน รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,049 คน และพบการติดเชื้อรายใหม่ในทัณฑสถานหญิงธนบุรี ทำให้มีเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศที่พบผู้ติดเชื้ออยู่ จำนวน 12 แห่ง

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีการตรวจเชื้อในผู้ต้องขังแล้วจำนวน 36,627 คน ตรวจครบ 100% จำนวน 8 แห่ง

  1. เรือนจำกลางเชียงใหม่
  2. เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
  3. ทัณฑสถานหญิงกลาง
  4. เรือนจำกลางคลองเปรม
  5. เรือนจำพิเศษธนบุรี
  6. ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
  7. เรือนจำจังหวัดนนทบุรี
  8. ทัณฑสถานหญิงธนบุรี

โดยยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจหาเชื้อให้ครบ 100% ในเรือนจำกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม รวมถึงการ SWAB หาเชื้อซ้ำทุก ๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อจนกว่าสถานการณ์จะปกติ


ส่วนความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีน ตามที่ได้รับแจ้งยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข ว่าพร้อมฉีดวัคซีนโดยเริ่มจากกลุ่มผู้ต้องขังที่ยังไม่ติดเชื้อ ผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เพื่อลดความรุนแรงของโรค และลดอัตราการเสียชีวิต เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำและทัณฑสถานเขตกรุงเทพมหานครไปแล้ว 1,683 คน จากทั้งหมด 1,770 คน คิดเป็น 95% สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค จะเป็นการดำเนินการโดยสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ในการดำเนินการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน ดำเนินการป้องกันการติดเชื้อจากบุคคลภายนอก โดยเฉพาะการส่งอาหาร ด้วยการให้ผู้ส่งอาหารสวมชุด PPE พร้อมสวมหน้ากากอนามัย และ Face Shield ให้พร้อม โดยต้องเข้า-ออกเพื่อส่งสินค้าให้เร็วและใช้เวลาน้อยที่สุด สำหรับผู้ต้องขังที่เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ที่ทำหน้าที่ส่งอาหารไปแดนต่างๆ ก็ต้องสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการแพร่เชื้ออีกทาง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง