ครม.เห็นชอบขึ้นทะเบียน รถบ้านเรียกใช้บริการผ่านแอปฯ

สังคม
25 พ.ค. 64
12:43
2,099
Logo Thai PBS
ครม.เห็นชอบขึ้นทะเบียน รถบ้านเรียกใช้บริการผ่านแอปฯ
ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จดทะเบียนให้บริการขนส่งผู้โดยสารรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้ หลังประชาชนนิยมใช้บริการ ขณะที่คนขับรถต้องมีใบขับขี่สาธารณะและผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ค่าโดยสารไม่แพงกว่าแท็กซี่

วันนี้ (25 พ.ค.2564) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถรับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิสก์ พ.ศ. .... โดยเป็นการอนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้าง โดยการรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการให้บริการ และส่งเสริมให้ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว สามารถประกอบอาชีพได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เหตุผลและความจำเป็นในการออกร่างกฎกระทรวงดังกล่าวนั้น เนื่องจากปัจจุบันการให้บริการการเดินทางโดยการเรียกใช้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นที่นิยมของประชาชน ซึ่งรถยนต์ที่นำมาให้บริการบางส่วนยังไม่สามารถนำมาจดทะเบียนได้ตามประเภทที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น จึงเห็นสมควรกำหนดให้มีรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นอีกแบบหนึ่งของรถยนต์รับจ้าง

 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะต้องออกประกาศกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข การรับรองผู้ให้บริการ และแอปพลิเคชัน ที่จะนํามาให้บริการตามฐานอํานาจที่กําหนดในร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว โดยจะรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องและออกประกาศ โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน (30 วัน) หลังจากที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ซึ่งกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับนั้น จะต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา

จากนั้นเมื่อผ่านขั้นตอน กรมการขนส่งทางบกออกประกาศฯ แล้ว ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน จะต้องยื่นเอกสารการทำงานของแอปพลิเคชัน ก่อนที่คณะกรรมการ กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาคุณสมบัติผู้ให้บริการ และรายละเอียดทางเทคนิคของแอปพลิเคชัน เมื่อผ่านการพิจารณาแล้วจะออกหนังสือรับรอง หลังจากนั้นจะเปิดลงทะเบียนของทั้งผู้ขับรถและผู้โดยสาร ก่อนจะเริ่มเปิดให้บริการต่อไป ส่วนจะสามารถเปิดให้บริการได้เมื่อไหร่นั้นจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ

 

สำหรับรายละเอียดในการดำเนินการของรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างนั้นจะใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเดิม โดยให้นายทะเบียนเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียน เป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในใบคู่มือจดทะเบียนรถ ขณะที่ ตัวรถจะต้องมีอายุใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ขนาดเล็ก (เครื่องยนต์ 50-90 kW) เช่น March, Vios,City, Mirage เป็นต้น 2.ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 90-120 kW) เช่น Altis, Civic เป็นต้น และ 3.ขนาดใหญ่ (เครื่องยนต์มากกว่า 120 kW) เช่น Accord, Fortuner เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีลักษณะเป็นรถเก๋ง, แวน 2 ตอน หรือ 3 ตอนก็ได้โดยจะต้องมีการทำประกันภัยเพิ่มเติมคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้โดยสาร และติดเครื่องหมายแสดงการใช้แอปพลิเคชันด้วย

ในส่วนของคนขับรถนั้นกำหนดให้จะต้องมีใบขับขี่สาธารณะ และผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และใช้แอปพลิเคชันของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก

ขณะที่ อัตราค่าโดยสารจะแบ่งเป็นรถขนาดเล็ก, กลาง มีค่าโดยสารไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่ในปัจจุบัน ด้านรถขนาดใหญ่มีค่าโดยสารไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่ VIP ในปัจจุบัน โดยสามารถมีค่าบริการเพิ่มเติมกรณีอื่นได้แต่ต้องไม่เกิน 200 บาท ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้ประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร

 

นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรายละเอียดของแอปพลิเคชันนั้นจะต้องเป็นแอปพลิเคชันสําหรับเรียกใช้บริการรถยนต์รับจ้างฯ ในส่วนของผู้ขับรถ (Driver Application) จะต้องมีระบบยืนยันตัวตน เช่น Pin Code, Fingerprint, Face Scan เป็นต้น อีกทั้งมีระบบคํานวณเส้นทาง ระยะเวลา และค่าโดยสารโดยประมาณ มีระบบรับ-ส่งข้อความ/โทรศัพท์กับผู้โดยสาร ในส่วนของผู้โดยสาร (Passenger Application) จะมีระบบลงทะเบียนผู้โดยสารระบบเรียกใช้งานรถยนต์รับจ้างแบบทันทีและแบบจองล่วงหน้า รวมถึงมีระบบคํานวณเส้นทาง ระยะเวลาและค่าโดยสารโดยประมาณ ระบบประเมินความพึงพอใจต่อผู้ขับรถและระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน

 

ขณะที่คุณสมบัติของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันจะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยมีทุนจดทะเบียนตามที่กำหนดในประกาศ (ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท) และต้องมีสถานที่ประกอบการในประเทศไทย รวมถึงมีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนในการได้รับอนุญาตเป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชันในประเทศไทย เช่น บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (Grab) มีทุนจดทะเบียน 2.87 พันล้านบาท, บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Robinhood) มีทุนจดทะเบียน 900 ล้านบาท, บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด (Food Panda) มีทุนจดทะเบียน 204 ล้านบาท, บริษัท เวล็อคซ์ จำกัด (Gojek) มีทุนจดทะเบียน 104 ล้านบาท, บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง