วันนี้ (27 พ.ค.2564) LAW 360 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวด้านกฎหมายในสหรัฐอเมริกา รายงานอ้างเอกสารของหน่วยงานด้านกฎหมายว่า กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา เปิดการสืบสวนคดี และอ้างถึงการสอบสวนภายในของโตโยต้า
พบว่าบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ทำสัญญากับสำนักงานกฎหมายหมายแห่งหนึ่งในประเทศไทย วงเงิน มูลค่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 844 ล้านบาท
เพื่อให้หาช่องทางช่วยเหลือคดี ติดต่อผู้บริหารระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมของไทย ผ่านอดีตหัวหน้าผู้พิพากษา และที่ปรึกษาศาล เพื่อให้ช่วยเอื้อประโยชน์ในคดีเกี่ยวกับภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ รุ่นพรีอุส
ในรายงานข่าวของ LAW 360 อ้างถึงการสอบสวนภายในโตโยต้าว่า ในเบื้องต้นจ่ายเงินไปแล้วกว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 563 ล้านบาท และจะจ่ายอีก 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 281 ล้านบาท หากโตโยต้าชนะคดี
เว็บไซต์ LAW 360 ระบุ อ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาและเอกสารที่เกี่ยวข้องว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนสหรัฐอเมริกาอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จ่ายเงิน ไม่ว่าจะทางตรง หรือจ่ายผ่านสำนักงานกฎหมาย
ให้กับอดีตประธานศาล และที่ปรึกษาระดับสูงของศาล เพื่อช่วยโน้มน้าวให้ประธานศาลที่เกี่ยวข้องกับในชั้นอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาคดีในขณะนั้น ให้รับการยื่นอุทธรณ์ของโตโยต้า และวินิจฉัยคดีให้เป็นประโยชน์กับโตโยต้า ภายใน 1 ปีหรือไม่
เว็บไซต์นี้ ระบุว่า อัยการในเขตเท็กซัสเหนือ แต่งตั้งคณะลูกขุน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนนี้ขึ้นมา เพื่อใช้คณะลูกขุนเรียกขอข้อมูลธนาคารและเอกสารอื่นๆ เพื่อสอบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในคดีติดสินบนของเจ้าหน้าที่ต่างชาติ
ข้อมูลในเว็บไซต์ ระบุถึง ข้อความว่า สำนักงานกฎหมายในประเทศไทย ที่ถูกกล่าวพาดพิง ไม่ได้ตอบคำถามหรือชี้แจง เช่นเดียวกับผู้บริหารศาลยุติธรรมในไทย ที่ปรากฏรายชื่อ ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวชิ้นนี้
เอกสารการบังคับใช้กฎหมายนี้ ในรายข่าวของเว็บไซต์ อ้างว่า ทนายความของโตโยต้าได้ดำเนินการสอบสวนภายในเกี่ยวกับการทุจริตของพนักงาน จำนวน 3 ประกอบด้วย ผู้จัดการทั่วไป รองผู้จัดการทั่วไป 2 คน
ไทยพีบีเอส ติดต่อสอบถามข้อมูลจากโฆษกศาลยุติธรรม และได้รับคำตอบอย่างไม่เป็นทางการว่า กรณีอดีตผู้บริหารของศาลที่ปรากฏชื่อตรงกับเว็บไซต์ LAW 360 นั้น
ขณะนี้สำนักงานศาลยุติธรรม กำลังรวบรวมข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม และจะชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในเร็วๆ นี้