วันนี้ (31 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. นายอนุชิต พิพิธกุล ผอ.เขตห้วยขวาง ได้นัดประชุมร่วมกับฝ่ายเกี่ยวข้องในนามศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 ห้วยขวาง เพื่อประชุมและมอบนโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแล และควบคุม ในช่วงที่สำนักงานเขตยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ COVID-19 เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดและเข้มงวด ตามคลัสเตอร์ที่ทาง ศบค.จับตา รวมถึงสถานการณ์การส่งตัวผู้ป่วย COVID-19 และการจับตาพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติม
สำหรับสถานการณ์ที่กลุ่มแรงงานตามแคมป์งานต่างๆ ไปรับการตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุก ที่ลานจอดรถไฟฟ้า MRT ถนน วัฒนธรรม แยกเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง ตลอด 4 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค.2564 นายอนุชิต ระบุว่า ทางสำนักงานเขตห้วยขวาง ต้องการค้นหาเชิงรุกว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนงานก่อสร้าง ที่ในสำนักงานเขตห้วยขวาง มีถึง 25 แคมป์ กว่า 8,000 คน ซึ่งนับว่ามากอันดับต้นของทั้ง 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร
ล่าสุด สำนักงานเขตห้วยขวางเปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า จากจำนวนผู้เข้ารับการตรวจสวอปมีทั้งหมด 4,095 คน พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 150 คน หรือ 3.66% แบ่งเป็นคนไทย 67 คน ต่างชาติ 83 คน ในจำนวนผู้ติดเชื้อ มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตห้วยขวาง 36 คน อยู่ในเขตอื่น ๆ 110 คน และมีภูมิลำเนาต่างจังหวัด 4 คน
ขณะเดียวในช่วงที่เกิดการระบาด COVID-19 ในแคมป์ที่พักคนงานภาพรวมของกรุงเทพมหานคร ทางสำนักงานเขตห้วยขวาง ได้มีคำสั่งปิดซีลแคมป์ 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน, บริษัท ไซมิส พระรามเก้า จำกัด, บริษัท บวิคไทย จำกัด, บริษัท ฤทธา ก่อสร้าง จำกัด และบริษัท ซินเทค คอนทรัคชั่น จำกัดมหาชน เฉพาะในพื้นที่เขตห้วยขวาง ในช่วง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา แต่อยู่ในสัดส่วนที่พบผู้ติดเชื้อไม่มากนัก บางแห่งมี 1-2 คน และ บางแห่ง มี 16 คน
ขณะนี้ คำสั่งที่ยังมีผลบังคับอยู่คือ บริษัท อิตาเลียนไทย บริษัท ไซมิส และ บริษัท ฤทธา ส่วนบริษัท บวิคไทย และบริษัท ซินเทค คำสั่งสิ้นสุดแล้วเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานเขตแจ้งว่า บริษัท ซินเทค ยังคงปิดแคมป์ที่พักคนงานไว้ก่อนในช่วงครึ่งเช้าวันนี้