โพลชี้ผู้ปกครองยังไม่อยากให้เปิดเรียน และต้องการให้ครู-นักเรียน ได้ฉีดวัคซีน

สังคม
31 พ.ค. 64
12:39
639
Logo Thai PBS
โพลชี้ผู้ปกครองยังไม่อยากให้เปิดเรียน และต้องการให้ครู-นักเรียน ได้ฉีดวัคซีน
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจของอนามัยโพลประเด็นเปิดเรียน พบภาพรวมทั้งประเทศส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม และต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีน

วันนี้ (31 พ.ค.2564) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าจากผลการสำรวจอนามัยโพลประเด็น “เห็นด้วยที่จะเปิดเรียนหรือไม่” พบว่าภาพรวมประเทศ เห็นด้วยร้อยละ 40.5 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 54.8

เมื่อแบ่งออกเป็นรายภาค พบว่า ภาคกลาง ไม่รวมกรุงเทพมหานคร เห็นด้วยร้อยละ 33.1 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 62.1 ภาคใต้ เห็นด้วยร้อยละ 30.2 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 65.9 ภาคเหนือ เห็นด้วยร้อยละ 45.1 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 49.9 และภาคอีสาน เห็นด้วยร้อยละ 66.2 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 29.6 โดยเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยในการเปิดเรียนมากที่สุด ในทุกพื้นที่ยกเว้นภาคอีสานคือ เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม ส่วนภาคอีสานจัดอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดต่ำ และเป็นพื้นที่เดียวที่ผลสำรวจพบว่า เห็นด้วยที่จะให้เปิดเรียนสูงถึงร้อยละ 66.2 ซึ่งเหตุผลหลักคือ เพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่าสำหรับเหตุผลของผู้ที่ไม่เห็นด้วย ในการเปิดเรียนในภาพรวมของประเทศพบว่า ร้อยละ 15.3 ต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม

ขณะที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดหนักในตอนนี้ ต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีน ร้อยละ 17.11 ภาคกลาง ร้อยละ 14.28 ภาคใต้ ร้อยละ 28.43 ภาคเหนือ ร้อยละ 23.75 และภาคอีสาน ร้อยละ 9.28

ดังนั้น การที่ประชาชนมองว่าควรพิจารณาการฉีดวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนก่อน จึงเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการเปิดเรียนตามปกติ และการพิจารณาเปิดเรียนจึงควรกระจายอำนาจให้จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด ร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้พิจารณา โดยคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ในสถานศึกษาที่กรมอนามัยได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและภาคีเครือข่ายจัดทำขึ้น

พร้อมทั้งผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาผ่าน Thai Stop COVID plus การเตรียมความพร้อมและแผนเผชิญเหตุของโรงเรียน ความร่วมมือของชุมชนและทุกภาคส่วนในพื้นที่ ตลอดจนการลดการเคลื่อนไหวหรือเดินทางของนักเรียนหรือผู้เกี่ยวข้องที่มาจากพื้นที่หรือสถานที่ที่เกิดการระบาด

ทั้งนี้ สถานศึกษาทุกแห่งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการก่อนเปิดภาคเรียนอย่างเคร่งครัด ด้วยการประเมินตนเอง ผ่านระบบ Thai Stop COVID plus ซึ่งจากข้อมูลระหว่างวันที่ 24 เม.ย. - 27 พ.ค.2564 พบว่ามีการประเมินตนเองแล้ว จำนวน 38,264 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 98.3 ส่วนนักเรียน นักศึกษา ครู บุคลากร และผู้ปกครอง ประเมินความเสี่ยงผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย”

สำหรับสถานศึกษาให้จัดสภาพแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรการเตรียมความพร้อม ก่อนเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา 44 ข้อ ใน 6 มิติ ได้แก่ 1) ความปลอดภัยจากการลดแพร่เชื้อโรค 2) การเรียนรู้ 3) การครอบคลุมเด็กด้อยโอกาส 4) สวัสดิภาพและการคุ้มครอง 5) นโยบาย และ 6) การบริหารและการเงิน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง