ผบ.ตร.แถลงมีหลักฐาน สั่งคุมตัว “ไชย์พล” ไป สภ.กกตูม

อาชญากรรม
2 มิ.ย. 64
12:13
5,554
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.แถลงมีหลักฐาน สั่งคุมตัว “ไชย์พล” ไป สภ.กกตูม
ผบ.ตร.แถลงมีพยานหลักฐานออกหมายจับ "ไชย์พล" คดีน้องชมพู่ 3 ข้อหา ลั่นทำตามสัญญาแล้ว เตรียมส่งตัวไป สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ชี้หากมีใครช่วยปกปิดก็ออกหมายจับเพิ่มได้

วันนี้ (2 มิ.ย.2564) เวลา 11.22 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวหลังจากนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีน้องชมพู่ เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยืนยันว่า ตำรวจทำตามพยานหลักฐานเท่าที่มี ปัจจุบันได้ข้อยุติ และไปขอหมายจับ ซึ่งต้องว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม

ก่อนหน้านี้มีการพูดกันเรื่องหลักฐานเยอะมาก บางเรื่องเป็นรายละเอียดพูดกันไปก่อนแบบถูกๆ ผิดๆ ถ้าไม่มีพยานหลักฐานตำรวจขอหมายจับไม่ได้ การจะตั้งข้อหาใครต้องทำตามพยานหลักฐาน และได้ข้อหาเท่าที่มีพยานหลักฐาน

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เบื้องต้นที่ได้ข้อยุติตามพยานหลักฐานสามารถแจ้ง 3 ข้อหาหลัก ได้แก่ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน

โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

 

ผบ.ตร.กล่าวว่า มั่นใจในทีมสอบสวน คดีนี้ก็เหมือนกับคดีฆาตกรรมทั่วไป บางเรื่องไม่ควรออกสู่สาธารณะ ถ้าเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลก อันนี้เหมือนกับเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก แต่ที่แข่งมาก่อนตอนคัดเลือกบางทีมเก่งมาก แต่พอเข้ารอบสุดท้ายก็ตกรอบ แต่บางทีมสภาพไม่ดี แต่อาจจะเข้ารอบ

สรุปกันมา 3 ข้อหา และต้องต่อสู้กันอีกหลายศาล ตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน ผู้ที่ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งตำรวจเคยรับปากว่า จะทำให้ดีที่สุดและทำตามสัญญาแต่ยังไม่จบ จะต้องดำเนินคดีกันต่อ

ลั่นมีพยานหลักฐานแจ้งเบื้องต้น 3 ข้อหา

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนกฎหมาย จะส่งไปที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร โดยตำรวจมีอำนาจในการควบคุมตัว 48 ชั่วโมง ถ้าจำเป็นต้องสอบสวนตัวต่อ ก็จะนำไปขอฝากขังต่อที่ศาล ส่วนจะให้ประกันหรือไม่ ต้องดูว่า มีผู้ใดมาขอยื่นประกันตัวหรือไม่ และถ้ายังไม่หมดเวลาก็จะทำไปเรื่อย ๆ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการสอบสวนจะเอาผิดผู้ที่ช่วยปกปิดหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ออกหมายจับ 1 คน ถ้ามีมากกว่านี้ก็ต้องทำซึ่งตำรวจทำงานตลอด และยังไม่ขอพูดกรณีถ้ามีคนรู้ช่วยปกปิดถ้ามีก็ทำเลย

การออกหมายจับนายไชย์พล ตำรวจทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามใจใคร ส่วนใครจะพอใจหรือไม่พอใจ เอาที่สบายใจ ใครจะคิดอะไรเป็นสิทธิของเขา วันนี้ออกหมายจับได้คนเดียว แต่ถ้ามีมากกว่าก็จะออกหมายจับเพิ่ม

นักไต่สวนบนโซเชียล –ส่งตัวไป สภ.กกตูม

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม แต่ความซับซ้อนหรือไม่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่แตกต่างคือ การไต่สวนบนโลกโซเชียล ซึ่งหนักมาก และเคยมีลักษณะแบบนี้กับคดีเกาะเต่า และไม่เชื่อว่าจะมีพี่น้องประชาชนติดตาม เสพติดจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ อาจจะเพราะว่าจากภูมิคุ้มกันในโซเชียลไม่ดีพอ และเมื่อสังคมเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น

ทั้งนี้ หากเทียบกับต่างประเทศก็เคยมีลักษณะนี้ มีการไต่สวน ตั้งข้อหา ลากยาวทั้งหลักฐาน และไสยศาสตร์ อยากฝากว่าเสพเรื่องนี้อยากให้ใช้วิจารณญาณ และอยากให้เลิกตามเรื่องนี้สัก 2 สัปดาห์ สุขภาพจิตจะดีขึ้น

ส่วนการทำคดีที่คดีช้าเพราะมีการใช้ศาสตร์ใหม่ๆ มาประยุกต์กับการสืบสวนสอบสวนและยึดหลักวิชาการ ต้องมีนักวิชาการมารองรับในทฤษฎี เช่น การหาธาตุจากเส้นผมของคน และธาตุพวกนี้บอกอะไรความถูกต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์ 

 

นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังย้ำว่า ตำรวจมีการรวบรวมทุกอย่างพฤติกรรมคน ประจักษ์พยาน ทั้งในที่เกิดเหตุ นอกจุดเกิดเหตุ หลักนิติวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ด้วยนำมาวิเคราะห์รวบรวม หลังจากนี้จะพิจารณาการแถลงคดีน้องชมพู่ ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอก็จะไม่แถลงซึ่งวันพรุ่งนี้ (3 มิ.ย.) อาจจะแถลงเพิ่มเติม

หลังจากนี้จะพาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวันก่อน และจะนำตัวนายไชย์พล ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปที่ สภ.กกตูม ท้องที่เกิดเหตุ เพราะมีเวลาในการควบคุมตัว 48 ชั่วโมง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอน ซึ่งในชั้นสอบสอบจะมีการอธิบายข้อหาและแจ้งสิทธิ ส่วนเขาจะให้การอย่างไรก็ว่ากันไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ทนายษิทรา" นำ "ไชย์พล" เตรียมเข้ามอบตัวกับ ผบ.ตร. 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง