วันนี้ (16 มิ.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ตั้งเป้าเปิดประเทศภายใน 120 วัน โดยมีสาระสำคัญระบุว่า การเดินหน้าแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนมีความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง วันนี้อยากเสนอโรดแมปที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อพลิกฟื้นจากวิกฤตโควิด-19
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาได้สั่งการโดยตรง โดยมีเป้าหมายบูรณาการการทำงาน วันนี้มีส่วนช่วยให้หน่วยงานและคณะกรรมการชุดต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างฉับไวและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการทำงานแบบนี้ช่วยให้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยขจัดปัญหาบางอย่าง รวมทั้งมีความคืบหน้าในการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน จำนวน 6 ราย ได้แก่ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า, รวมถึง แอสตรา เซเนกา, ซิโนแวค, และซิโนฟาร์ม ซึ่งตอนนี้มีการลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อแล้ว 105.5 ล้านโดส เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ โดยทั้งหมดจะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้
การเดินหน้าตามแผนจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนเฉลี่ยเดือนละกว่า 10 ล้านโดส และประมาณต้นเดือนตุลาคมจะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 50 ล้านคน
ตั้งเป้าเปิดประเทศใน 120 วัน นำร่อง "ภูเก็ตแซนด์บอกซ์"
ทั้งนี้ขอแจ้งให้ทราบว่าตนเองได้เป้าว่าประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศภายใน 120 วัน นับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมเร็วกว่านี้ก็ควรทยอยเปิดให้เร็วกว่านั้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดส ควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขข้อห้ามที่สร้างความยากลำบาก รวมทั้งคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ควรเดินทางกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว ส่วนของสถานที่ทำงานและธุรกิจต่างๆ ต้องกลับมาเปิดทำการได้ ยกเว้นกรณีเกิดสถานการณ์ร้ายแรงใหม่
การเดินหน้าสู่เป้าหมายเปิดประเทศภายใน 120 วัน จะเริ่มนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ที่เตรียมผ่อนคลายบางมาตรการ และเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบแซนด์บอกซ์ ซึ่งเร่งรัดให้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อเดินหน้าทำให้เกิดขึ้นจริงตามแผน เป็นการเตรียมการเพื่อเปิดประเทศในระยะต่อไป
ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง
อย่างไรก็ตามเมื่อประเมินสถานการณ์และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน หากความเสี่ยงนั้นได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่าอยู่ในระดับที่พอจะรับได้ ซึ่งต้องจัดลำดับความสำคัญภายในประเทศ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
นายกฯ มั่นใจมีฐานผลิตวัคซีนในไทยแก้ปัญหาระยะยาว
ทั้งนี้ช่วงท้ายของแถลงการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภารกิจต่อไปคือทำให้ทุกคนสามารถกลับมาทำมาหากินกันได้ปกติอีกครั้งโดยเร็วที่สุด โดยไม่สามารถรอจนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแบบถ้วนหน้า แต่สิ่งที่ต้องทำคือต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด-19 ให้ได้เหมือนกับโรคอื่นๆ ในระดับที่ควบคุมได้
ดังนั้นเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วัน จึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ส่งมอบวัคซีนตามกำหนดการ โดยระยะสั้นมีนโยบายให้ประชาชนทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เร็วที่สุด เพราะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยลดความเสี่ยงของการป่วยหรือเสียชีวิตได้
ส่วนระยะยาวการมีฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงวัคซีนในระยะยาวต่อไปตราบเท่าที่ประเทศไทยต้องการ
ในที่สุดการมีโรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในประเทศไทย จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในระยะยาว ซึ่งแนวทางนี้เราได้เลือกมาตั้งแต่ต้น
ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดยขอขอบคุณผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่แนะนำให้รัฐบาลเลือกเดินหน้าในแนวทางนี้ และขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ที่ร่วมกันดำเนินการจนสำเร็จ
สุดท้ายนี้ขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เหนื่อยกันมากว่าปีครึ่ง และยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่และเต็มใจ อย่างที่ทุกคนคงจะได้สัมผัสด้วยตนเองตอนไปรับการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคนไม่ใช่เพียงแค่ทำหน้าที่ แต่สัมผัสได้ทั้งจากท่าทาง คำพูด และการกระทำ ว่าทุกคนมาทำหน้าที่ด้วยหัวใจและด้วยความปรารถนาดีที่ต้องการปกป้องชีวิตของพี่น้องคนไทยด้วยกัน