"เสรีพิศุทธิ์" แจ้งเอาผิด "ธรรมนัส" คดียาเสพติดปี 36

อาชญากรรม
21 มิ.ย. 64
11:57
1,010
Logo Thai PBS
"เสรีพิศุทธิ์" แจ้งเอาผิด "ธรรมนัส" คดียาเสพติดปี 36
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แจ้งความให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ดำเนินคดี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ข้อหาค้ายาเสพติดในไทย จากคดีที่ออสเตรเลียดำเนินคดีรู้เห็นการนำยาเสพติดเข้าประเทศ เชื่อยังดำเนินคดีได้แม้อายุความจะเหลืออีก 2 ปี

วันนี้ (21 มิ.ย.2564) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำหลักฐานเกี่ยวกับคำพิพากษา คดีรู้เห็นการนำยาเสพติด 3.2 กก. เข้าประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2536 มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ให้ดำเนินคดีกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่เคยถูกดำเนินคดีในไทย และยังสามารถดำรงตำแหน่ง ส.ส.ได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากโทษที่เคยได้รับเป็นโทษนอกราชอาณาจักร

แต่เมื่อได้ตรวจสอบจากหลักฐานที่ได้รับ ทั้งคำพิพากษาของศาลในออสเตรเลียและข้อความที่เขียนด้วยลายมือของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ยอมรับในข้อกล่าวหาของศาล

รวมทั้งการประสานกลับเข้าประเทศ หลังจากรับโทษเสร็จสิ้นเมื่อปี 2540 ของเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยนั้น โดยระบุไว้ชัดเจนว่า ถูกส่งกลับประเทศเนื่องจากรับโทษในคดีรู้เห็นการนำเข้ายาเสพติดเข้าออสเตรเลีย

ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดที่นำมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อต้องการให้ดำเนินคดีกับ ร.อ.ธรรมนัส ข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเนื่องจากเป็นยาที่นำออกจากประเทศไทย ซึ่งก็จะถือว่าเป็นความผิดที่เกิดในประเทศไทย และก็อาจจะทำให้นำไปสู่การพิจารณาการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าเหมาะสมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สำหรับกฎหมายคดียาเสพติดระบุไว้ว่า คดีดังกล่าวมีอายุความ 30 ปี และยังเหลืออายุความอีก 2 ปี และเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะเร่งดำเนินคดีส่งสำนวนให้อัยการและพิจารณาในชั้นศาลได้ตามกรอบเวลา และพร้อมที่จะนำพยานบุคคลและพยานเอกสารมาให้พนักงานสอบสวนอีกในภายหลัง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังระบุว่า หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส กลับเข้ามาในไทย ยังพบว่า ถูกให้ออกจากราชการเนื่องจากขาดราชการเกิน 15 วัน แต่จากนั้นมีการรับกลับเข้ามาเป็นข้าราชการทหารเรือ ก่อนโยกกลับเข้ามาเป็นทหารบก รวมทั้งยังมีการกระทำผิดหลายครั้ง ซึ่งเคยได้รับเรื่องร้องเรียนสมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง