วันนี้ (23 มิ.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะเข้าสู่วาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขอหารือที่ประชุม และขอความชัดเจนจากประธานรัฐสภา กรณีที่ไม่มีการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 เพื่อเปิดทางแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เข้าสู่วาระพิจารณา โดยอ้างอิงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ห้ามการแก้ไขทั้งฉบับ
แต่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา อ้างอิงมติเอกฉันท์ของฝ่ายกฎหมายของรัฐสภา ชี้ว่าเนื้อหาในมาตรา 15/1 เข้าข่ายเป็นการยกร่างทั้งฉบับ และอาจขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จึงเห็นควรใช้ดุลยพินิจไม่บรรจุเข้าสู่การพิจารณา ก่อนหน้านั้นประธานรัฐสภา ชี้แจงขั้นตอนพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวม 13 ฉบับ จะพิจารณาเรียงตามลำดับการบรรจุญัตติ
เริ่มจากร่างของพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะลงมติในคราวเดียวกัน ด้วยวิธีการขานชื่อเป็นรายบุคคล และตามข้อสรุปร่วมกัน ระหว่างวิปรัฐบาล ฝ่ายค้าน และให้เกียรติวุฒิสภา เห็นควรแบ่งเวลาการอภิปรายฝ่ายละ 6 ชั่วโมง รวม 18 ชั่วโมง และจัดสรรเวลาให้ประธานในที่ประชุมอีก 3 ชั่วโมง และคาดการณ์ว่าการอภิปรายในวาระแรก จะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 16.00 น.
ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการลงมติที่คาดว่าจะใช้เวลาเฉพาะการลงมติราว 6 ชั่วโมง ตรวจสอบท่าทีล่าสุดของแต่ละฝ่าย พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ยังคงกล่าวย้ำในหลักการที่จะลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ฉบับ แต่ติดใจเนื้อหาร่างของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะมาตรา 144 และ 185 ด้วยกังวลจะกระทบต่อการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ขณะที่ท่าทีของ วุฒิสมาชิก พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร คลายความกังวลใจ หลังฟังคำชี้แจงของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ตอบรับจะไปปรับแก้เนื้อหาในชั้นกรรมาธิการฯ ก่อนจะสะท้อนข้อกังวลในการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ หากรับหลักการร่างแก้ไขมาตรา 272 ว่าด้วยการปิดสวิตซ์ ส.ว.จึงเห็นควรให้มีการจัดทำประชามติก่อน