วันนี้ (27 มิ.ย.2564) นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยสถานการณ์ COVID-19 ภาพรวมใน จ.สมุทรสาคร ว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อของจังหวัดมากกว่า 200 คนต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่า ถ้าสถานการณ์ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องอาจเพิ่มสูงถึงวันละ 300 คนได้
สถานการณ์ที่พบส่วนหนึ่ง มีประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เดินทางมาขอรับบริการในเขต จ.สมุทรสาคร ประมาณเฉลี่ย 40% ซึ่งวันนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อภาพรวมที่ศูนย์ปฏิบัติการโควิดสมุทรสาคร รายงานพบผู้ติดเชื้อ 289 คน แต่ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยจากนอกจังหวัด 80 คน และในจังหวัด 116 คน การรักษาให้อยู่ในโรงพยาบาลเกือบทั้งหมด และกว่าครึ่งเป็นกลุ่มแรงงานข้ามชาติ แต่ก็ยังพบกลุ่มคนไทยติดเชื้อเพิ่มด้วยเช่นกัน
ส่วนแนวโน้มผู้ติดเชื้อ ที่เข้ารับการรักษาใน จ.สมุทรสาคร ขณะนี้อัตราการครองเตียง COVID-19 ภาพรวมเฉลี่ยต่อ 100 เตียง มีอัตราการครองเตียงอยู่ที่ประมาณ 96-97 เตียง จากจำนวนเตียง COVID-19 ทั้งหมดที่มีกว่า 2,000 เตียง ที่มีในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนใน จ.สมุทรสาคร อาจจะเหลือเตียงรองรับผู้ติดเชื้อไม่มาก และอาจมีผลต่อสถานการณ์ระบบสาธารณสุขได้
นอกจากนี้ยังพบว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 กว่า 60% ไม่มีอาการหรืออาการน้อย (กลุ่มสีเขียว) ที่ขณะนี้อยู่ในโรงพยาบาล มีแนวโน้มที่จะย้ายไปอยู่ในการดูแลต่อที่โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel เพื่อเปิดทางให้โรงพยาบาลมีเตียงไว้รองรับกลุ่มผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการ ( สีเหลือง) หรือ ผู้มีอาการรุนแรง ( สีแดง) ได้มากขึ้น ดังนั้นจะทำให้ระบบสาธารณสุขของจังหวัดสมุทรสาคร รองรับสถานการณ์ปัจจุบันได้
ทั้งนี้ในวันนี้เวลาประมาณ 16.00 น.ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการสมุทรสาคร เป็นประธานจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับการจัดการเตียงโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากขณะนี้มีโรงพยาบาลสนามอยู่แล้ว 3 แห่ง รวมเตียงทั้งสิ้นประมาณ 1,500 เตียง อาจต้องเพิ่มเตียงและเพิ่มโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม ซึ่งสถานการณ์ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลในจังหวัดได้ขยายมาแล้วก่อนหน้านี้
การเพิ่มเตียงที่ผ่านมา แม้ขยับเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่อย่างที่ทราบกัน มันเหมือนอึ่งอ่างที่ต้องพองตัว พองตัวไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็แตกเพราะไม่สามารถพองตัวได้อีกแล้ว ซึ่งนั่นคือการล้มของระบบ ซึ่งเราคงไม่อยากให้เกิดสถานการณ์นั้นแน่นอน ต้องช่วยกัน
นพ.นเรศฤทธิ์ ระบุด้วยว่า ขณะนี้ได้ปรึกษากระทรวงสาธารณสุขและเขตสุขภาพที่ 5 มีแนวทางที่จะทำโรงพยาบาลสนามเป็นภาพรวมของหลายจังหวัด เช่น จ.นครปฐม, จ.เพชรบุรี , จ.สมุทรสาคร ที่ต้องมีการใช้โรงพยาบาลสนามและบุคลากรร่วมกัน รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์จากหลายจังหวัดที่ขณะนี้สถานการณ์อาจยังไม่มีผู้ติดเชื้อมากนักก็สามารถระดมมาช่วยกัน
ส่วนกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ศบค.ที่ให้ปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยจะมีผลในเวลา 24.00 น.คืนนี้ อาจทำให้เกิดปัญหาอัตรากำลังในแต่ละจังหวัดที่ให้เฝ้าระวังแต่ละหมู่บ้าน โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำที่ต้องไปเฝ้าระวังในช่วงนี้ด้วย
นพ.นเรศฤทธิ์ สำหรับสถานการณ์ลดความเสี่ยง COVID-19 สสจ.สมุทรสาคร ย้ำว่า เชื้ออยู่ในร่างกายคน การปิดโรงงาน หรือ สถานที่ ไม่ได้ช่วยป้องกัน หรือ ควบคุมโรค แต่การทำให้คนอยู่กับที่ เชื้อโรคอยู่ในคน คนอยู่กับที่ 14 วัน จะเป็นการควบคุมโรคได้เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่นิ่งเป็นระยะเวลา 14 วัน ถ้าทุกคนทำได้พร้อมกัน นับ 1 -14 พร้อมกันจะสามารถช่วยยับยั้งหรือลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 wfh นี่คือหลักการที่เราจะช่วยกันป้องกันและควบคุมโรคให้ได้
ส่วนร้านอาหารและเครื่องดื่ม ไม่สามารถในร้านอาหารได้แล้วตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.2564) การรวมกลุ่มทำกิจกรรมเกิน 20 คนก็ไม่สามารถทำได้ หากจัดต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
นอกจากนี้ การปิดแคมป์คนงาน จะหยุดทำงาน หยุดการเคลื่อนที่ ห้ามเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะในจังหวัดหรือข้ามจังหวัด พร้อมขอฝากถึงประชาชน อย่าละเลยเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น และขอให้เว้นระยะระหว่างกัน รวมถึงการดูแลสุขอนามัยของตัวเอง เพื่อช่วยกันลดความเสี่ยง COVID-19 ในช่วงนี้ ที่จังหวัดต้องการควบคุมการแพร่ระบาด