บช.น.เตรียมกำลังตำรวจรับมือชุมนุม 2-3 ก.ค.

อาชญากรรม
2 ก.ค. 64
12:29
194
Logo Thai PBS
บช.น.เตรียมกำลังตำรวจรับมือชุมนุม 2-3 ก.ค.
"พล.ต.ต.ปิยะ" ระบุเตรียมกำลังตำรวจ 6 กองร้อย ดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ และกลุ่มราษฎร ในช่วงเย็นวันนี้ (2 ก.ค.) เตือนรวมกลุ่มชุมนุมเกิน 20 คนจะถูกดำเนินคดีทั้งแกนนำและผู้ร่วมชุมนุม

วันนี้ (2 ก.ค.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มราษฎร ในเวลา 16.00 น. ว่า ได้เตรียมกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย จำนวน 6 กองร้อย เบื้องต้นมีการนัดรวมตัวชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ เดินไปตามถนนพิษณุโลก มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มราษฎร มีลักษณะเป็นการเปิดท้ายขายของคล้ายตลาดนัด โดยระบุว่าเพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนได้ทำมาหากินนั้น เป็นการชุมนุมหรือจัดกิจกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 อย่างรุนแรงในพื้นที่ กทม.

รอง ผบช.น. ย้ำว่า การรวมกลุ่มหรือทำกิจกรรมมากกว่า 20 คน จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งแกนนำและผู้ร่วมชุมนุม และหากกระทำความผิดในส่วนอื่นเพิ่มเติมก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมไปถึงผู้ที่เข้าร่วมขายสินค้าต่างๆ โดยปิดถนนสายสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีโรงเรียน, โรงพยาบาล, ชุมชน และสถานที่ราชการ ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะจัดเจ้าหน้าที่บันทึกภาพและเสียง ติดตามพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายและจะนำตัวมาดำเนินคดีทุกคน

เตรียมกำลัง 9 กองร้อยดูแลชุมนุม 3 ก.ค.

พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงการนัดหมายชุมนุมในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ว่า ได้เตรียมกำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย 9 กองร้อย เบื้องต้นมีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ประกอบด้วย กลุ่มประชาชนคนไทย โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ เวลา 15.00 น. นัดรวมกลุ่มที่แยกอุรุพงษ์ และจะเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก

ส่วนกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ นัดรวมกลุ่มเวลา 16.00 น. ที่แยกผ่านฟ้า และจะเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล

รวมถึงกลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นัดรวมกลุ่มทำกิจกรรม Car Mob ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. โดยจะขับขี่รถไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการรวมกลุ่มขับรถเป็นขบวนไปตามท้องถนน อาจทำให้การจราจรติดขัด ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน

นอกจากความผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมและโรคติดต่อแล้ว รถจักรยานยนต์หรือยานพาหนะใดที่ใช้ร่วมกิจกรรม พนักงานสอบสวนอาจพิจารณายึดไว้เพื่อประกอบการดำเนินคดี และอาจพิจารณาขอให้ศาลสั่งริบตามกฎหมาย ซึ่งอาจจะเป็นความผิดขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ด้วย

ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีแกนนำและผู้ร่วมชุมนุม 223 คน พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งฟ้องต่ออัยการแล้ว 163 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง