วันนี้ (2 ก.ค.2564) นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวในงานเสวนากระทรวงสาธารณสุข หัวข้อ “วัคซีนโควิด ไทยจะเดินต่อไปอย่างไร” โดยระบุว่า การสรรหาวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในขณะที่ทั่วโลกมีวัคซีนจำกัด ไทยจัดหาวัคซีนตั้งแต่เดือน ก.พ.-มิ.ย.2564 ได้วัคซีนซิโนแวค 9.5 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนได้รับบริจาคจากรัฐบาลจีนด้วย
ส่วนการวางแผนจัดหาวัคซีนแอสตราเซเนกาในเดือน มิ.ย. จำนวน 6 ล้านโดส เดือน ก.ค. จำนวน 10 ล้านโดส และเดือนถัดไปอีก 10 ล้านโดสนั้น ตามศักยภาพการฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข หวังว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาตามแผน แต่เมื่อไปตรวจสอบกำลังการผลิตในประเทศไทย คาดว่าจะผลิตได้ 108 ล้านโดสต่อปี หรือเฉลี่ย 15 ล้านโดสต่อเดือน
โดยธรรมชาติการผลิตวัคซีน ช่วงต้น ๆ จะทำได้ไม่เต็มกำลัง ดังนั้นศักยภาพในการผลิตแอสตราเซเนกาในไทยจะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
นพ.นคร กล่าวต่อว่า ในจำนวนวัคซีนที่ผลิตได้ยังจำเป็นต้องส่งมอบให้ต่างประเทศ ไม่สามารถส่งมอบให้ไทยทั้งหมดได้ เนื่องจากนโยบายของบริษัทแอสตราเซเนกา ต้องจัดสรรวัคซีนให้เท่าเทียมกันทั่วโลก ดังนั้นการส่งมอบวัคซีนจึงจำเป็นต้องส่งมอบวัคซีนให้ประเทศอื่น ๆ ด้วย
ในวันนี้แอสตราเซเนกา ได้ส่งมอบวัคซีนให้ไทยครบ 6 ล้านโดสตามกรอบเดือน มิ.ย.แล้ว แต่ในเดือน ก.ค. จะไม่สามารถส่งให้ไทยได้ถึง 10 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม ในสัญญาสั่งซื้อมีเพียงกรอบเวลาการส่งมอบ 61 ล้านโดส ใน 1 ปีเท่านั้น การส่งมอบไม่เป็นไปตามแผนในรายเดือน จึงไม่ถือว่าผิดสัญญา
เราพยายามจะขอว่า ถ้าเป็นไปได้ เราอยากได้วัคซีนเร็ว เดือนละ 10 ล้านโดส แต่เมื่อดูความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้ ก็ต้องคุยและดูข้อจำกัดกัน ไม่ได้ผลิตน้อยกว่าที่คาดไว้ ผลิตได้ตามแผน แต่ไม่เท่ากับความต้องการเร่งการฉีดของเรา
แอสตราฯ ส่งวัคซีนให้ไทยได้เดือนละ 5-6 ล้านโดส
นพ.นคร กล่าวอีกว่า ได้รับจดหมายจากรองประธานบริษัทแอสตราเซเนกา ว่า จะส่งมอบวัคซีนให้ไทยได้เดือนละ 5 - 6 ล้านโดส หากได้รับจำนวนเท่านี้จริง ๆ จึงจำเป็นต้องจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่น ๆ พร้อมย้ำว่า แม้ไทยจะเป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกา แต่ไม่สามารถห้ามส่งออกวัคซีนไปประเทศอื่นได้ เนื่องจากกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เร่งจัดหาซิโนแวคเพิ่ม เพื่อเสริมกำลังการฉีดวัคซีน ให้มีอัตราการฉีดตามเป้า 10 ล้านโดสต่อเดือน เพื่อลดการป่วยและการเสียชีวิต พร้อมเจรจากับบริษัทไฟเซอร์ คาดว่าจะส่งมอบวัคซีนให้ไทยได้ในไตรมาสที่ 3 หรือประมาณเดือน ส.ค.
ทั้งนี้ เมื่อส่งใบจองไปและได้รับแจ้งว่า การส่งมอบวัคซีนในไตรมาส 3 เป็นไปได้ยาก จึงจะขอส่งมอบไตรมาสที่ 4 ประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย. จำนวน 20 ล้านโดส ขณะนี้อยู่ขั้นตอนต่อรอง โดยไทยได้ย้ำให้ไฟเซอร์เร่งส่งวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ถ้าการผลิตมันไม่มากเท่าที่คาดการณ์ เวลาที่ส่งมอบวัคซีนก็ต้องขยับไป กรมควบคุมโรคเร่งดำเนินการ แต่ต้องยอมรับว่าไทยจองได้ช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะว่าเราพูดคุยแล้ว แต่กระบวนการต้องใช้เวลา จองได้ช้ากว่า เราก็ต้องยอมรับ
ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างเจรจากับคิวบา ที่มีวัคซีนชนิด Subunit protein ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 92 ซึ่งมีประสิทธิภาพคล้ายวัคซีน Novavax ของสหรัฐอเมริกา หลังพบว่า วัคซีนชนิด mRNA ที่เตรียมจัดซื้อเข้ามาอาจส่งมอบไม่ทันไตรมาส 3 และในปี 2565 จะจัดหาวัคซีนสำหรับเชื้อกลายพันธุ์ด้วย