รัศมี 1 กม. "สไตรีน" ค่าความเข้มข้นยังสูง -ประเมินสิ่งแวดล้อม 3 วัน

สิ่งแวดล้อม
6 ก.ค. 64
19:02
6,312
Logo Thai PBS
รัศมี 1 กม. "สไตรีน" ค่าความเข้มข้นยังสูง -ประเมินสิ่งแวดล้อม 3 วัน
กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลตรวจค่าความเข้มข้น "สไตรีน" ในโรงงานหมิงตี้ ยังมีค่าความเข้มข้น 1,035 ppm ส่วนรอบชุมชนในรัศมี 1-2 กิโลเมตรเริ่มมีแนวโน้มดี คพ.ยังประเมินอีก 3 วันตรวจอากาศ น้ำเสียรอบพื้นที่โรงงาน

วันนี้ (6 ก.ค.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากเหตุ การณ์ระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัทหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งโรงงานถูกเพลิงไหม้พังถล่มเสียหายทั้งหมด แต่ คพ.ยังเฝ้าระวังมลพิษจากสารเคมีที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบ เพื่อแจ้งเตือนประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ผลตรวจวัดคุณภาพอากาศ โดยสถานีคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ 5 สถานีในรัศมี 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง ต.บางโปรง อ.เมือง ต.ตลาด อ.พระ ประแดง ต.ปากน้ำ อ.เมือง และ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จากสถานีคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ 5 สถานี พบว่า​อยู่​ในเกณฑ์มาตรฐานและมีแนวโน้มดีขึ้น

  • PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 7 –22 มคก.ต่อลบ.ม.
  • PM 10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 13 – 35 มคก./ลบ.ม.
  • ก๊าซโอโซน เฉลี่ย 8 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 10-20 ppb
  • คาร์บอนมอนอกไซด์ เฉลี่ย 8 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 0 - 0.56 ppm
  • ไนโตรเจนไดออกไซด์ เฉลี่ย 1 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 5 - 12 ppb
  • ซัลเฟอร์ไดออกไซด์เฉลี่ย 1 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 0 - 6 ppb

อ่านข่าวเพิ่ม “วราวุธ” ระบุ รง.ตั้งก่อนมีอีไอเอ คพ.เร่งสำรวจคุณภาพอากาศ-น้ำ

"สไตรีน" ยังมีค่าความเข้มข้นสูง 

ขณะที่ผลการตรวจค่าความเข้มข้นของสารสไตรีน เมื่อเวลา 13.30-14.00 น. พบค่ามลพิษที่เป็นอยู่ตอนนี้ในช่วงรัศมี 2 กิโลเมตร และรัศมี 5 กิโลเมตร ผลการจากการคำนวณความเข้มข้นของสารสไตรีน ที่มีพิษเฉียบพลันในบรรยากาศในพื้นที่ ในช่วงรัศมี 1– 5 กิโลเมตร มีดังนี้

  • รัศมี 1 กิโลเมตร จะมีค่าความเข้มข้น 1,035.47 ppm ซึ่งไม่เกิน 1,100 ppm หมายความว่าถ้าอยู่ในระยะ 1 กิโลเมตร จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต
  • รัศมี 3 กิโลเมตร จะมีค่าความเข้มข้น 86.43 ppm 
  • รัศมี 5 กิโลเมตร มีค่าความเข้มข้น 51.77 ppm ซึ่งไม่เกิน 130 ppm ซึ่งหมายความว่าถ้าอยู่ในรัศมี 3- 5 กิโลเมตร จะได้รับผลกระทบต่อร่างกาย แต่ไม่ร้ายแรง 

ทั้งนี้ รัศมีที่มีวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ความเข้มข้นก็จะยิ่งน้อยลงความเป็นอันตรายก็จะน้อยลง หรือยิ่งไกลยิ่งมีความปลอดภัยมาก

 

นอกจากนี้ยังตรวจวัดไอระเหยสารเคมี และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs)   โดยเทียบกับค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจ พบว่า 

  • จุดเกิดเหตุโรงงานหมิงตี้ ตรวจพบสารสไตรีนอยู่เกณฑ์ปกติ มีค่าอยู่ในช่วง 1-8.4 ppm (ค่ามาตรฐาน 20 ppm) ส่วนฟอร์มาดีไฮด์ มีค่าอยู่ในช่วง 1- 2.19 ppm (ค่มาตรฐาน 0.9 ppm) ซึ่งส่งผลกระทบสุขภาพเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในบริเวณ
  • บริเวณชุมชนใกล้เคียงโรงงานหมิงดี้ รัศมี 1-2 กิโลมตร ตรวจพบสารสไตรีน อยู่เกณฑ์ปกติ มีค่อยู่ในช่วง 0-0.8 ppm(ค่ามาตรฐาน 20 ppm) และฟอร์มาลีนไฮด์อยู่ในกณฑ์ปกติมีค่าอยู่ในช่วง 0-0.01 ppm (ค่ามาตรฐาน 0.9 ppm)

สารอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs) ตรวจวัด 3 จุด โดยพบว่า  บริเวณรั้วโรงงานมีค่ระหว่าง 0.7-0.8 ppm ส่วนด้านหน้า โรงงานห่างออกมา 5 เมตร มีค่าระหว่าง 0.1-0.5 ppm และบริเวณวโรงงานห่างออกไป 50 เมตร มีค่าระหว่าง 0-0.1 ppm 

สำหรับสไตรีน มีพิษเฉียบพลันระคายเคืองทางเดินหายใจ ผิวหนังอักเสบ มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและส่วนปลาย ทำให้มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน อาจชักและเสียชีวิตได้หากได้รับในปริมาณสูง ขณะ พิษเรื้อรัง อาจทำให้เป็นมะเร็งปอดและมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้

แนวโน้มคุณภาพอากาศดี-ประเมินพื้นที่ให้คนกลับบ้าน

นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนการตรวจวัดสารอินทรีย์ระเหยง่ายรวม (Total VOCs) ด้วยเครื่องมือแบบเคลื่อนที่ บริเวณรั้วโรงงาน บริเวณด้านหน้าโรงงานห่างออกมา 5 เมตร และ 50 เมตร พบว่าในรัศมีที่ห่างออกไปค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายจะน้อยลง และมีความปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น ภาพรวมคุณภาพอากาศโดยรวมกลับสู่ภาวะปกติ

คุณภาพอากาศในพื้นที่พบว่ากลับสู่สภาวะปกติ กำลังพิจารณาเรื่องลดพื้นที่เพื่อให้ประชาชนกลับมายังที่อยู่อาศัยได้ แต่คพ.จะติดตามด้านมลพิษอย่างต่อเนื่อง 3 วัน

เก็บตัวอย่างน้ำตรวจหาวีโอซีตกค้าง 

นายอรรถพล กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือหากมีกรณีฝนตกลงมา อาจจะชะสารเคมีลงใต้ดิน แหล่งน้ำ หรือท่อระบายน้ำ ซึ่งจะยากต่อการควบคุม ดังนั้นทาง คพ.การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ

คพ. ได้สำรวจและเก็บตัวอย่างน้ำแหล่งน้ำ และคลองโดยรอบที่เกิดเหตุ จำนวน 7 จุด ได้แก่ คลองชวดลาดข้าว จำนวน 2 จุด ด้านฝั่งตะวันออกของโรงงานเกิดเหตุ จุดปากท่อน้ำเสียที่ไหลลงคลองชวดลาดข้าว 1 จุด คลองูอาจารย์พร จำนวน 1 จุด ด้านเหนือโรงงานเกิดเหตุ ปากท่อน้ำเสียไหลลงคลองอาจารย์พร 1 จุด บึงน้ำด้านตะวันตกของโรงงานเกิดเหตุ 1 จุด และบริเวณรางน้ำหน้าโรงงานเกิดเหตุ 1 จุด

ทั้งนี้เก็บตัวอย่างน้ำส่งห้องปฏิบัติการ คพ.ตรวจวิเคราะห์หาสารสไตรีน ซึ่งอยู่ในกลุ่มสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (วีโอซี) น้ำมัน และไขมัน 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตรวจกลุ่มเสี่ยงรับควันพิษ "สไตรีนโมโนเมอร์" 6-7 ก.ค.นี้

ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ชี้โรงงานระเบิด-ไฟไหม้ กระทบกว่า 80,000 คน 

สภาวิศวกร แนะใช้ "โฟมดับเพลิง" เหตุไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง