วันนี้ (7 ก.ค.2564) นายทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่า จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในรอบ 30 วัน โดยติดเชื้อเพิ่ม 29 คน มีทั้งผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด การแพร่ระบาดในชุมชนซึ่งเป็นคลัสเตอร์ และการสัมผัสในครอบครัว ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมระลอก เม.ย. อยู่ที่ 4,264 คน รักษาหายแล้ว 4,124 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ. 114 คน และเสียชีวิต 26 คน
สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 1-7 ก.ค.2564 มีจำนวน 46 คน พบว่า มาจาก กทม. มากที่สุด 37 คน ปทุมธานี 4 คน อ.แม่สอด จ.ตาก 2 คน นนทบุรี 2 คน และกำแพงเพชร 1 คน
พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่
จ.เชียงใหม่ พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ ได้แก่ คลัสเตอร์ไซต์ก่อสร้างโรงเรียนเอกชน ติดเชื้อ 10 คน คลัสเตอร์พนักงานขับรถขนส่งสินค้าทางการเกษตรใน อ.ฮอด ติดเชื้อ 8 คน และคลัสเตอร์โรงงานขนมปัง อ.สันกำแพง ติดเชื้อ 15 คน
ทั้ง 3 คลัสเตอร์ได้มีการแพร่ระบาดไปยังบุคคลใกล้ชิดและคนในครอบครัวแล้ว
7 อำเภอ งดเรียนแบบ On Site อนุบาล-ประถมฯ
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งมาตรการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ห้ามสถานศึกษาใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.สันทราย อ.สันกำแพง อ.หางดง อ.สารภี อ.แม่ริม และ อ.ดอยสะเก็ด จัดการเรียนการสอนแบบปกติ (On Site) ในระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ส่วนสถานศึกษาที่จัดให้มีที่พักสำหรับนักเรียนเป็นปกติธุระ หรือโรงเรียนประจำ สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
สำหรับการจัดการศึกษาในระดับที่สูงกว่าประถมศึกษา หรือพื้นที่อำเภออื่น ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา ในการพิจารณาจัดรูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสม
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 แล้วแต่กรณี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8-31 ก.ค.2564