"สุริยะ" คาดกู้สารสไตรีน 1 พันตันจบ 1-2 วันเบรก "หมิงตี้" ผุดที่เดิม

สิ่งแวดล้อม
9 ก.ค. 64
10:27
1,103
Logo Thai PBS
"สุริยะ" คาดกู้สารสไตรีน 1 พันตันจบ 1-2 วันเบรก "หมิงตี้" ผุดที่เดิม
"สุริยะ" เฉียบห้ามหมิงตี้ เคมีคอล ตั้งโรงงานพื้นที่เดิม หลังสั่งปิดจากเหตุระเบิดไฟไหม้ ชี้กลับมาต้องอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม คาด 1-2 วันเก็บกู้สไตรีน 1,000 ตัน พร้อมสั่งสแกน 466 โรงงานใช้เคมีภัณฑ์ทำแผนความปลอดภัย ส่วนคพ.ยังประเมินสิ่งแวดล้อมรอบชุมชน

วานนี้ (8 ก.ค.2564) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้โรงงาน บริษัทหมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 จ.สมุทรปราการว่า  ขณะนี้กรมโรงงานได้สั่งปิดโรงงานชั่วคราวไปแล้ว และกระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีนโยบายที่จะให้โรงงานหมิงตี้ กลับมาดำเนินการในพื้นที่เดิมอีก เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชน หากจะกลับมาดำเนินการจะต้องเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น และผ่านขั้นตอนตามกฏหมายอื่นๆ ที่กำหนดไว้

นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้มอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำแผนรายงานปริมาณสารเคมี แผนความเสี่ยง โดยเฉพาะโรงงานเคมีภัณฑ์ที่คาดว่ามีอยู่ 446 โรงงาน ต้องรายงานแผนการจัดเก็บสารเคมี ตรวจประเมินเพิ่มมาตรการความปลอดภัย รวมทั้งต้องลดสต็อก จัดเก็บสารเคมีเท่าที่จำเป็นในการผลิตในระยะเวลาที่เหมาะสม และให้ดูเรื่องย้ายโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ที่อยู่กลางชุมชนออกนอกพื้นที่

ส่วนการกำจัดสารสไตรีนโมโนเมอร์ที่ยังเหลืออยู่ 1,000 ตัน ทาง ปตท.และดาว เคมีคอล จะเข้ามาช่วยในการเติมสาร DEHAเพื่อลดปฏิกิริยาทางเคมีให้มีความเสถียร และนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป คาดว่าจะย้ายออกไปได้ภายใน 2-3 วันนี้

คพ.เล็งฟ้องค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อม

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากผลการตรวจสอบสถานการณ์มลพิษในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับ เหลือเพียงการตรวจสอบสารเคมี และกากของเสียอันตรายที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่โรงงาน เพื่อหาแนวทางการจัดการบำบัดและขนย้ายออกไปกำจัดตามหลักวิชาการต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ NPC ยังคงเฝ้าระวังเกี่ยวกับการเติมสาร DEHA ที่จะไปช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาโพลิเมอร์ไรเซชั่น และสาร F500 ที่จะช่วยป้องกันการลุกติดไฟของสารสไตรีนที่รั่วไหล พร้อมทั้งตรวจสอบอุณหภูมิของถังตลอดเวลา

สถานการณ์คุณภาพอากาศในวัในรัศมี 1-2 กิโลเมตร อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เหลือเพียงพื้นที่ในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบพื้นที่โรงงาน ที่ต้องตรวจสอบและเฝ้าระวัง รวมทั้ง การตรวจสอบน้ำที่ปนเปื้อนจากการดับเพลิงในพื้นที่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณที่เกิดเหตุและชุมชนโดยรอบในรัศมี 0.5, 1 และ 2 กิโลเมตร และเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินในชุมชนโดยรอบ

ข้อมูลผลการวิเคราะห์ทั้งหมดจะนำมาประมวลผลเพื่อประเมินความเสี่ยง และความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพิจารณาหาแนวทางในการจัดการเพื่อลดปัญหามลพิษและฟื้นฟูสภาพแวดล้อม

นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนทีม คพ.และเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกร่วมกันประเมินปริมาณความเข้มข้นของสารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์ที่ตกค้าง นอกจากนี้ยังขอความร่วมือประชาชนใช้น้ำรอบพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำคลอง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส และนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภคบริโภคในช่วงนี้ ส่วนน้ำประปา สามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฉีดสารดับเพลิงโฟม เปลี่ยนสภาพสไตรีนไม่ให้ติดไฟ - ปะทุซ้ำ

สั่งปิด "หมิงตี้" ชั่วคราว ขีดเส้นเก็บกู้ของเสียภายใน 20 ส.ค.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง