วันนี้ (17 ก.ค.2564) พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 จากพรรคฝ่ายค้าน คัดค้านการตั้งงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ว่า
กองทัพเรือเสนอไว้ในการจัดทำงบประมาณทุกปี ซึ่งปีนี้ก็เช่นกัน โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ขอตัดงบประมาณส่วนนี้ เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาเยียวยาประชาชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19
ทั้งนี้กองทัพเรือทำตามหน้าที่ในการเสนองบประมาณตามขั้นตอนตามปกติ เช่นเดียวกับกระทรวง ทบวง กรม ในการดำรงภารกิจของตัวเอง ส่วนจะผ่านหรือไม่ผ่านขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมาธิการฯ และรัฐสภา โดยไม่มีวาระซ่อนเร้น
โฆษกกองทัพเรือ ยังระบุถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การเสนอจัดซื้ออาวุธในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ว่า ทำตามหน้าที่ และไม่ว่าจะเสนอในช่วงเวลาใดก็ถูกกระแสโจมตี ไม่ได้เพิ่งเกิดในช่วงนี้ ทั้งนี้ก็ต้องรอขั้นตอนการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ซึ่งฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบไปตามปกติ หากเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาจัดซื้อกองทัพเรือก็พร้อมยอมรับ
ส่วนกองทัพเรือก็มีหน้าที่รักษาความพร้อมรบและพัฒนากองทัพ หากเว้นช่วงไปก็จะเกิดผลกระทบได้ เนื่องจากโครงการเป็นลักษณะการจัดซื้อแบบรวมการเมื่อจัดหาลำหนึ่งมาแล้ว จำเป็นต้องมีลำที่ 2 และ 3 เพื่อนำมาหมุนเวียนในช่วงซ่อมบำรุง ซึ่งมีปัจจัยหลายหลายอย่างเข้ามาประกอบ
โฆษกกองทัพเรือระบุว่า การตั้งงบประมาณปี 2565 ได้มีการเจรจากับจีนขอลดวงเงินในปีแรกลง 1 ใน 3 ตามคำแนะนำของฝ่ายค้านเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และเตรียมข้อมูลเหตุผลความจำเป็นเพื่อชี้แจงในคณะกรรมาธิการ
สำหรับการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ จะใช้ระบบออนไลน์ โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพ เสนาธิการเหล่าทัพผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนาธิการทหาร ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม ปลัดบัญชีทุกเหล่าทัพ จะวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จากหน่วยงานไปยังห้องประชุมคณะกรรมาธิการ