วันนี้ (21 ก.ค.2564) นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ชี้แจงกรณีปัญหาการเบิกจ่ายค่าตอบแทนต่างๆ ของบุคลากรสาธารณสุขที่มาปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลบุษราคัมว่า การเบิกจ่ายเป็นไปตามระเบียบราชการ ซึ่งโรงพยาบาลบุษราคัม ถือเป็นโรงพยาบาลลูกข่ายของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า การเบิกจ่ายทุกประเภทยึดตามระเบียบของต้นสังกัด อย่างค่าตอบแทนเสี่ยงภัย ซึ่งจะได้รับจากสำนักงบประมาณ ที่จะจัดสรรให้เป็นงวด ๆ ไม่ใช่รายเดือน ซึ่งยืนยันว่าจะได้รับเงินส่วนนี้แน่นอน
ส่วนค่าตอบแทนค่าโดยสารเที่ยวละ 8 บาท เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนระหว่างการสื่อสาร เพราะมีระเบียบการเบิกจ่ายของปี 2560 โดยส่วนนี้ได้มอบให้ทางการเงินของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ไปสอบทวนเรื่องดังกล่าวว่า หากมีส่วนใดที่เป็นสิทธิประโยชน์โดยตรงของเจ้าหน้าที่ ขอให้ดำเนินการอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม โดยปกติหากทำงานเดือนนี้มีเอกสารถูกต้อง ก็จะได้ค่าตอบแทนในเดือนถัดไป
เพิ่มโอทีเป็น 2 เท่า ทีมบุคลากรสู้โควิดหนักขึ้น
นพ.กิตติศักดิ์กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ช่วง ก.ค.ที่ผ่านมา ภาระงานของบุคลากรหนักมากขึ้น ทำให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนนอกเวลาราชการให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลบุษราคัมขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป
สำหรับยอดผู้ป่วยสะสม ณ วันที่ 20 ก.ค.2564 จำนวน 10,395 คน รักษาหายแล้ว 6,955 คน นอนรักษาตัวประมาณ 3,300 คน โดยอัตรากำลังรับเข้าอยู่ที่วันละ 300-400 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล 300 คน แบ่งเป็นแพทย์ 50-60 คน พยาบาล 200 คน เภสัชกร นักรังสีวิทยา ผู้ช่วยเหลือคนไข้ เดิมจากการดูแลผู้ป่วยสีเหลือง ต้องดูแลกลุ่มสีแดงด้วย
ปัจจุบันมีผู้ป่วยต้องใช้ออกซิเจนถึง 500 คน ใช้เครื่องช่วยหายใจหรือเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ (Oxygen High Flow) 170 คน ในจำนวนนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจวันละ 6-9 คน โดยโรงพยาบาลบุษราคัม ใช้เครื่องไฮโฟลว์สูงสุดในประเทศ
ตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่มีการระบาดรุนแรง กำลังคนมาจากภูมิภาคทั้งหมด แต่ขณะนี้ภูมิภาคเริ่มพบการระบาดเพิ่มขึ้น การส่งกำลังเจ้าหน้าที่จึงค่อนข้างลำบาก แต่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ปฏิเสธคนไข้ รับทุกเคส เพื่อให้เข้าถึงระบบสาธารณสุข
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ระบุว่า โรงพยาบาลมีเตียง 3,700 เตียง ขณะนี้อัตราครองเตียงอยู่ประมาณ 3,300 เตียง ยังรับต่อวันได้ 300-400 คน เพราะเจ้าหน้าที่จะสามารถดูแลได้ด้วย ขณะเดียวกันก็จะมีผู้ป่วยหายกลับบ้านตามระยะเวลากำหนด
รายงานสายตรงจากทีมแพทย์ รพ.บุษราคัม
สำหรับการชี้แจงดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ได้ออกมาเปิดเผยรายงานจากทีมแพทย์ที่ไปช่วยงานโรงพยาบาลบุษราคัม ผ่านเพจ ไขปัญหากับอายุรแพทย์ โดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ยังไม่มีระบบการหมุนเวียนอายุรแพทย์กลุ่มอื่นมาช่วย เคสผู้ป่วยหนักมากขึ้น แต่บุคลากรเท่าเดิม มีการคาดหวังให้ทีมแพทย์ไปเติมเต็มในงานที่จะเพิ่มขึ้น และส่วนที่ขาด
ขณะเดียวกันทีมแพทย์หมุนเวียนจากต่างจังหวัดมีช่องว่างในการหมุนเวียนทำให้บางช่วงมีเพียงอายุรแพทย์ที่ทำงานครั้งละ 1-2 วัน ต่อรอบ 2 สัปดาห์
ปัญหาคนไข้ที่ครบกำหนดกลับบ้านบางส่วนไม่ยอมกลับ โดยบอกว่ากลับไปแล้วจะให้ผมไปทำอะไร ไม่มีงาน ไม่มีกิน อันนี้เริ่มเจอมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ สุดท้ายก็เกิดปัญหาเตียงเต็ม
นอกจากนี้ ยังมีการระบุถึงค่าตอบแทนแพทย์ ที่มีการประชุมกัน และมีประกาศแจ้งว่า ยื่นค่าเสี่ยงภัยได้ทุกเวร แต่ก็ยังให้คำตอบไม่ได้ว่า ได้เมื่อไหร่ ส่วนค่าโอทีเบิกให้จากจำนวนเวรทั้งหมด ที่อยู่เกินเวลาราชการ โดยครั้งแรกแจ้งว่า 750 บาทต่อ 8 ชั่วโมง แต่มีคนไปดูในระเบียบพบว่า ต้องได้ 1,800 บาทต่อ 8 ชั่วโมง สุดท้ายจึงมาเปลี่ยนว่าให้ 1,800 บาท ต่อ 8 ชั่วโมง
ส่วนค่าที่พักสามารถเบิกได้ แต่ค่าเดินทางจากเดิมแจ้งว่า ได้วันละไม่เกิน 600 บาทตามระเบียบ เป็นได้เท่าอัตรารถประจำทาง ค่าโดยสารเที่ยวละ 8 บาท ขณะที่แพทย์บางคนออกเวรเที่ยงคืน ขณะที่เบี้ยเลี้ยงเบิกไม่ได้ เพราะโรงพยาบาลบุษราคัมมีอาหารเช้า-กลางวัน-เย็นให้ วันไหนไม่เข้าเวรก็ให้นั่งรถไปกินข้าวที่โรงพยาบาล