วันนี้ (21 ก.ค.2564) ไทยพีบีเอสรวบรวมข้อมูลโรงพยาบาลที่ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยนอกและปิดให้บริการแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระหว่างวันที่ 16-21 ก.ค.2564 พบว่ามีโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ล่าสุด โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกมาแจ้งทางเฟซบุ๊กในวันนี้ โดยระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งนี้ เพื่อลดความหนาแน่น และลดการแพร่กระจายเชื้อ จึงจำเป็นต้องลดผู้ป่วยนอก (ทั้งในและนอกเวลาราชการ) ดังนี้ 1.งดรับผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยที่ไม่มีนัด ผู้ป่วยระหว่างส่งต่อโรงพยาบาล ยกเว้นผู้ป่วยที่จำเป็นเร่งด่วน 2.ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยเก่าที่มีนัดเดิมเท่านั้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.2564 จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลในต่างจังหวัดอย่างโรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งประกาศปิดให้บริการแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 20-30 ก.ค.นี้ เนื่องจากมีการกักตัวของบุคลากรที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อของโควิด-19 ทำให้บุคลากรไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ประกาศเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) ว่า ขณะนี้ปริมาณผู้ป่วยโควิด-19 มากเกินระบบการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลจะรองรับได้ ICU และ Ward สำหรับผู้ป่วยเต็ม ER (แผนกฉุกเฉิน) มีผู้ป่วยโควิด-19 รอส่งต่อล้นระบบอยู่ ขอความกรุณาติดต่อสอบถาม โทร. 1474 ก่อนนำผู้ป่วยที่มีอาการหนักมารับบริการ เพื่อการเตรียมการที่เหมาะสม
ส่วนโรงพยาบาลเลิดสิน แจ้งเมื่อวานนี้เช่นกันว่า จำเป็นต้องปิดบริการให้บริการห้องฉุกเฉิน (ER) และปิดให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินทุกกรณี เนื่องจากมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก จนล้นเกินความสามารถที่จะให้บริการ รวมทั้งมีบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ เนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ซึ่งอาจไม่มีความปลอดภัยต่อผู้ป่วยที่มารับบริการและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวงกว้าง โดยจะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.เป็นต้นไป และจะกลับมาให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต แจ้งเมื่อวานนี้ว่า เนื่องด้วยมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในบุคลากรห้องฉุกเฉิน จึงมีความจำเป็นต้องปิดบริการในส่วนห้องจิตเวชฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 20-26 ก.ค.2564 กรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน สามารถติดต่อได้ที่ โทร 086-995-3112 หรือ 086-995-8482
ขณะที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประกาศแนวทางการให้บริการของโรงพยาบาลในสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2564 ว่า เนื่องด้วยในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก ขอแจ้งการดำเนินการดังนี้ 1.งดผ่าตัดล่วงหน้า (Elective case) และหัตถการที่ไม่จำเป็น ยกเว้นกรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน 2.ห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยวิกฤต ฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน 3.ลดการให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) โดยงดรับผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยส่งต่อ และผู้ป่วยเดิมที่ไม่ได้นัด ยกเว้นผู้ป่วยวิกฤต ฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน 4.ผู้ป่วยอาการคงที่ ติดต่อขอรับยาทางไปรษณีย์ได้ทาง https://bit.ly/pmkdlv
ขณะที่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งแนวทางการให้บริการผู้ป่วย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564 ว่า เนื่องจากมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 หลายคน จากการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการและบุคลากรของโรงพยาบาล ขอแจ้งแนวทางในการให้บริการ ดังนี้ งดรับผู้ป่วยใหม่ ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน, งดรับบริการห้องฉุกเฉินและอุบัติเหตุ เปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่มีความจำเป็นเร่งด่วน, งดผ่าตัด และหัตถการที่ไม่จำเป็น ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน, ลดการให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) และงดเยี่ยมผู้ป่วยใน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ประกาศเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ตกค้างที่ห้องตรวจโรคฉุกเฉินจำนวนมาก เนื่องจากเตียงรองรับผู้ป่วยไม่เพียงพอ มีบุคลากรติดเชื้อและจำนวนมากต้องได้รับการกักตัว เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ จึงขอปิดให้บริการ ดังนี้ ขอปิดให้บริการ ห้องตรวจโรคฉุกเฉินและห้องตรวจโรคนอกเวลาราชการ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 18 ก.ค.2564 เวลา 18.00 น.
ขณะที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ออกประกาศเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564 โดยระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและขยายเป็นวงกว้าง มีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่รับไว้ดูแล 1,000 คน ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้านกว่า 350 คน ผู้ป่วยรอค้างเข้ารักษาในโรงพยาบาลกว่า 200 คน และรอค้างที่ห้องฉุกเฉินจำนวนมาก รวมทั้งมีบุคลากรที่ปฏิบัติงานภายในคณะฯ ติดเชื้อสะสมกว่า 300 คน ทำให้ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย
การให้บริการใกล้ถึงขั้นเกินขีดความสามารถที่จะดูแลประชาชน จึงขอประกาศมาตรการดังต่อไปนี้ 1.งดผ่าตัดที่นัดล่วงหน้า (Elective case) ทุกประเภท ยกเว้นกรณีเร่งด่วนฉุกเฉินเท่านั้น 2.งดการให้บริการที่ห้องฉุกเฉิน ยกเว้นในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น 3. ลดการตรวจที่หน่วยตรวจผู้ป่วยนอก นัดตรวจทางไกล Telemedicine และรับยาทางไปรษณีย์