อนุฯ เตรียมทบทวนงบฯ กองทัพซ้ำ ระบุเป็นคนละส่วนกับงบ สธ.

การเมือง
21 ก.ค. 64
17:11
231
Logo Thai PBS
อนุฯ เตรียมทบทวนงบฯ กองทัพซ้ำ ระบุเป็นคนละส่วนกับงบ สธ.
อนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ซีกฝ่ายค้าน เตรียมเสนอชะลอโครงการจัดซื้อของ กองทัพอากาศ 3 โครงการมูลค่าเกือบ 3 พันล้านออกไปก่อน พร้อมตรวจสอบการใช้งบประมาณของเหล่าทัพ ด้านประธานฯ ระบุจะพิจารณาของทุกหน่วยงาน เพื่อประคองเศรษฐกิจโดยรวม

อนุ กมธ.พิจารณางบฯ กองทัพพรุ่งนี้

วันนี้ (21 ก.ค.2564) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะอนุกรรมาธิการ ครุภัณฑ์ และไอซีที ฯ เปิดเผยถึงแนวทางการพิจารณางบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในวันที่ 22 ก.ค.ว่า นอกจากการพิจารณาการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพแล้ว ยังจะพิจารณาการจัดซื้อครุภัณฑ์อื่นๆ ด้วย โดยอ้างอิงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ที่ผ่านมาที่ได้หยิบยกการจัดซื้อจัดจ้างโครงการของกองทัพ ที่มีราคาสูงเกินความเป็นจริง ทั้งกางเกงในทหารเกณฑ์ หรือการจัดซื้อรถบัส และท่ามกลางวิกฤติทางเศรษฐกิจการคลังของประเทศ การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน จะต้องเป็นไปเท่าที่จำเป็นประหยัด และตอบโจทย์ภัยคุกคามของประเทศ

งบประมาณ 3.1 ล้านบาท สำหรับงบประมาณปี 2565 จะเห็นว่า มีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการของประชาชน ที่ยังไม่เพียงพอ และยังคงถูกตัดลดลง ทั้งงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือแม้แต่งบสวัสดิการบัตรคนจน

ระบุแม้จะถอนเรือดำน้ำแต่ยังมีโครงการอื่นอีก

ตัวเลขจากวงเงินประมาณปีนี้ อาจจะตัดหน่วยงานอื่นได้ไม่มาก แต่งบฯ ในส่วนของกระทรวงกลาโหม จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ทั้งการซื้อยุทโธปกรณ์ชิ้นใหญ่ หรือการจัดซื้อครุภัณฑ์รายย่อย ที่ราคาสูงกว่าท้องตลาดมาก

กองทัพเรือ แม้ว่าจะยอมถอยการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ออกไป วงเงินปี 2565 จำนวน 900 ล้านบาท แต่ว่า กองทัพเรือยังเสนอโครงการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับชายฝั่ง มูลค่า 4,100 ล้านบาท และใช้งบประมาณปี 2565 จำนวน 800 ล้านบาท โดยย้ำว่า แม้แต่จ่ายปีนี้ 800 ล้านบาท แต่โครงการจะผูกพันปีต่อๆ ไปด้วย

นอกจากนี้ยังมีงบประมาณของกองทัพอากาศ ที่เป็นโครงการผูกพันเดิม ตั้งแต่ปี 2564 อยู่หลายโครงการ ที่ยังไม่เกิดการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะบางโครงการที่มีความเคลือบแคลงสงสัย เพราะมีการแก้รายละเอียดในทีโออาร์ และเรื่องร้องเรียนเข้าสู่กรรมาธิการ ป.ป.ช. ตรวจสอบ โดยในฐานะกรรมาธิการฝ่ายค้านจะเสนอให้เลื่อนออกไปก่อน

โดย 3 โครงการของกองทัพอากาศ คือ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องกันทางอากาศระยะที่ 7, โครงการพัฒนาและป้องกันฐานที่ตั้งอากาศ และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดินและอากาศ รวมทั้งสิ้น 2,795 ล้านบาท

ระบุงบฯ สธ.กับกองทัพคนละส่วนกัน

ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ระบุว่า ในวันที่ 22 ก.ค. หน่วยงานด้านความมั่นคงในกระทรวงกลาโหม จะเข้าชี้แจงขอรับการจัดสรรงบประมาณ

สำหรับข้อกังวลและข้อทักท้วงจากกระแสสังคมว่า การจัดสรรงบประมาณอุปกรณ์การรบพร้อม แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ยังไม่มีความพร้อมนั้น นายสรวุฒิกล่าวว่า อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะรัฐบาลได้กันงบประมาณด้านสาธารณสุขทางการแพทย์ป้องกันโรคระบาดเอาไว้แล้วจำนวนมาก แต่ทยอยนำออกมาใช้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเห็นว่ากรมควบคุมโรค กลายเป็นจำเลยของสังคมและถูกโจมตี

นายสรวุฒิ กล่าวต่อว่า ในฐานะกรรมาธิการก็พร้อมรับฟังข้อห่วงใยจากสังคม ประเด็นอ่อนไหวต่างๆ ของประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่หน่วยงานที่ขอรับงบประมาณด้วยความรอบคอบ และไม่มีธงในการตัดงบประมาณของหน่วยงานใด ซึ่งจะดูถึงเหตุผลความจำเป็นของแต่ละหน่วยงาน

สำหรับการเข้าชี้แจงงบประมาณของกระทรวงกลาโหมในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.2564) รองปลัดกระทรวงกลาโหม จะเข้ามาชี้แจงภาพรวม ขณะที่เหล่าทัพส่งระดับเสนาธิการเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง ในห้องกรรมาธิการ เพราะจะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณางบประมาณ

ทั้งนี้ก็จะต้องพิจารณาจากรายการขอรับงบประมาณของแต่ละเหล่าทัพ ว่ามีอะไรบ้าง หลังจากมีข้อเรียกร้องจากกรรมาธิการ พรรคฝ่ายค้าน ให้ตัดงบประมาณที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการชะลอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ออกไป หรืองบประมาณการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับบินชายฝั่งของกองทัพเรือ

เผยจะพิจารณางบฯ ทุกหน่วยเพื่อประคองเศรษฐกิจ

ประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่า หลักการพิจารณาของกรรมาธิการจะพิจารณาว่า งบประมาณส่วนใดสามารถปรับได้ หรือชะลอไว้ในปีนี้จะทบทวน ซึ่งพิจารณาทุกหน่วยงานไม่เพียงแต่หน่วยงานด้านความมั่นคง และยืนยันจะประหยัดงบประมาณแผ่นดิน เพื่อประคองสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

ในฐานะเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน สำหรับการจัดซื้อวัคซีน 10.9 ล้านโดส ตามมติ ครม.นั้น คณะกรรมการฯ ให้ความเห็นว่า ให้กรมควบคุมโรคจัดหาโดยด่วนที่สุด และให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ให้จัดสรรวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ โดยไม่ได้ระบุว่า เป็นวัคซีนชนิดใด และพร้อมรับทุกความเห็นติติงรัฐบาล ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจและร่วมกัน ไม่ใช่การโจมตีด้วยข้อมูลที่ผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากวัคซีนจำนวน 10.9 ล้านโดส เป็นการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคทั้งหมด จะสะเทือนต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายสรวุฒิยอมรับว่า เป็นความท้าทายของรัฐบาล โดยเชื่อว่าหากคนเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ วัคซีนอะไรก็ได้ เพราะฉีดเกิน 2,000 ล้านโดสทั่วโลก ทั้งซิโนแวคและซิโนฟาร์ม

สถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย หรือ อินโดนีเซีย กำลังเผชิญสถานการณ์รุนแรงเช่นกัน แต่สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ การให้ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด และเกิดการกระจายอย่างเป็นธรรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง