วันนี้ (23 ก.ค.2564) ผู้แทนพิเศษสหภาพแอฟริกาด้านโควิด-19 เปิดเผยว่า ทางสหภาพจะทยอยได้รับวัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวนรวม 400 ล้านโดส ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
วัคซีนจำนวนนี้จะนำมาฉีดให้แก่คนจำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด 800 ล้านคน ท่ามกลางสภาวะที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดเป็นระลอกที่ 3
โดยจะกระจายวัคซีนประมาณ 6 ล้านโดสไปยัง 27 ประเทศที่จ่ายค่าวัคซีนแล้วภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่อีก 18 ประเทศกำลังอยู่ระหว่างการทำข้อตกลงกู้ยืมเงินเพื่อชำระค่าวัคซีน และจะเริ่มส่งวัคซีนเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านโดสตั้งแต่เดือน ก.ย. ก่อนจะเพิ่มเป็นเดือนละ 20 ล้านโดสในเดือน ม.ค.2565
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เผยผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เบื้องต้นในห้องปฏิบัติการ พบว่า วัคซีนแบบโดสเดียวตัวนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยจากสายพันธุ์เดลตาได้เพียงประมาณร้อยละ 33 ซึ่งเทียบเท่ากับการรับวัคซีนแอสตราเซเนกาโดสเดียว
แต่การศึกษาชิ้นนี้ยังเป็นเพียงแค่การทดสอบในห้องปฏิบัติการ ซึ่งอาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพในการใช้งานจริง และยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ หรือตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิทยาศาสตร์ แต่อาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องพิจารณาการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มเติมในอนาคต
ทวีปแอฟริกามีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน ใน 55 ประเทศ และได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วเพียงประมาณ 60 ล้านโดสเท่านั้น
ที่มา : Reuters, New York Times