กรมวิทยาศาสตร์ฯ ระบุพบคนไทย 1 ใน 5 ล้านคน มีภาวะหลอดเลือดอุดตัน

สังคม
23 ก.ค. 64
12:01
1,067
Logo Thai PBS
กรมวิทยาศาสตร์ฯ ระบุพบคนไทย 1 ใน 5 ล้านคน มีภาวะหลอดเลือดอุดตัน
กรมวิทย์ฯ เผยคนไทยมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำร่วมกับหลอดเลือดอุดตัน หลังได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เพียง 1 ใน 5 ล้านคน พบน้อยกว่าชาติตะวันตกถึง 5-40 เท่า และรักษาหายได้

วันนี้ (23 ก.ค.2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการที่มีรายงานพบผู้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำร่วมกับหลอดเลือดอุดตัน หรือภาวะ VITT หลังการได้รับวัคซีนโควิด 19 ชนิด Viral vector vaccine เช่น แอสตราเซเนกา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในต่างประเทศ อาจทำให้ประชาชนเป็นกังวล ไม่กล้าฉีดวัคซีนชนิดนี้นั้น

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนจนถึงวันที่ 11 ก.ค.2564 มีการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาในคนไทยแล้ว 5,360,745 โดส และมีผู้ป่วยยืนยันอาการ VITT โดยคณะผู้เชี่ยวชาญเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังการได้รับวัคซีน จำนวน 1 คน

ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นหญิง อายุ 26 ปี มีโรคประจำตัว คือ ไมเกรน มาด้วยอาการปวดศีรษะมากขึ้นกว่าเดิม ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่า มีค่าเกล็ดเลือดต่ำ ค่า D-dimer สูง และ Anti PF4/heparin antibody เป็นบวก อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับการรักษาด้วยยา intravenous immunoglobulin (IVIG) แล้ว ก็มีอาการดีขึ้น

ภาวะ VITT ในประเทศไทย มีอุบัติการณ์น้อยกว่าต่างประเทศมาก คือ 1 : 5,000,000 ในขณะที่ต่างประเทศมีอุบัติการณ์ประมาณ 1 : 125,000 – 1 : 1,000,000 ซึ่งถือว่ามากกว่าประเทศไทยถึง 5-40 เท่า

แม้จะเป็นภาวะที่อาจเกิดอาการรุนแรง แต่หากได้รับการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็ว ก็จะสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย สามารถตรวจเกล็ดเลือดได้ทุกแห่ง และมีห้องปฏิบัติการอย่างน้อย 78 แห่ง ที่มีความพร้อมในการตรวจ D-dimer

หากแพทย์พบว่า มีค่าเกล็ดเลือดต่ำ และ D-dimer สูง จะส่งตัวอย่างเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้ง ด้วยวิธีที่เรียกว่า Anti PF4/heparin antibody และ Platelet activation assay ตามแนวทางของสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย โดยทั้งหมดนี้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นพ.ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือน ก.ค. มีการปรับสูตรวัคซีน ทำให้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกามากขึ้น หากผู้ได้รับวัคซีนคนใดมีอาการบ่งชี้ว่า มีหลอดเลือดอุดตัน เช่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ ปวดหลังรุนแรง ขาบวม เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก ตามัว เห็นภาพซ้อน หลังได้รับวัคซีนภายใน 30 วัน ให้รีบปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล

หากผลการตรวจเบื้องต้นเข้ากับภาวะ VITT แพทย์จะพิจารณารักษาทันที จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ประเทศไทยมีความพร้อมในการตรวจและรักษาภาวะนี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง