"แอสตราเซเนกา" เตรียมส่งวัคซีนให้ไทย 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า

สังคม
24 ก.ค. 64
13:04
2,669
Logo Thai PBS
"แอสตราเซเนกา" เตรียมส่งวัคซีนให้ไทย 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า
บริษัท แอสตราเซนเนกา เตรียมส่งมอบวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้ไทยอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า ระบุ พยายามจัดหาวัคซีนจากศูนย์ผลิตอื่น หวังส่งให้ไทยเพิ่ม แต่ทั่วโลกกำลังประสบภาวะขาดแคลนวัตถุดิบผลิตวัคซีน

วันนี้ (24 ก.ค.2564) นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตราเซนเนกา (ประเทศไทย) จำกัด ออกจดหมายเปิดผนึกถึงคนไทย โดยระบุว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็น “ชีววัตถุ” ที่เริ่มต้นด้วยการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต จึงมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน จำนวนเซลล์ที่สามารถนำไปใช้เพื่อการผลิตวัคซีนในแต่ละรอบการผลิตจึงมีความไม่แน่นอน

การผลิตระยะแรกจากศูนย์การผลิตวัคซีนแห่งใหม่ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่เราคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดสรรวัคซีนให้กับประเทศไทยได้โดยเฉลี่ย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน

จนถึงขณะนี้ แอสตราเซเนกาได้ส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 9 ล้านโดส และมีกำหนดส่งมอบอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า รวมเป็นยอดส่งมอบ 11.3 ล้านโดส ณ สิ้นเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา บริษัทจะพยายามหาทุกวิถีทางที่จะเร่งการผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ผลิตอย่างสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งได้พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงมั่นใจว่า จะสามารถส่งมอบวัคซีนได้มากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ทั่วโลกประสบภาวะขาดแคลนวัตถุดิบผลิตวัคซีน 

นายเจมส์ ทีก ระบุอีกว่า บริษัทยังได้พยายามจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากศูนย์การผลิตของแอสตราเซเนกาทั่วโลกกว่า 20 แห่ง เพื่อส่งมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะเดียวกันทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกัน COVID-19 การขาดแคลนวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตวัคซีน ส่งผลให้ไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการผลิตที่แน่นอนได้ แต่บริษัทหวังว่าจะสามารถนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมมาให้กับคนไทยได้ในเดือนต่อ ๆ ไป

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการใช้วัคซีนล่าสุดจากประเทศแคนาดาแสดงให้เห็นว่า วัคซีนป้องกัน COVID-19 ของแอสตราเซเนกา 1 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อรุนแรงในระดับที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรค COVID-19 สายพันธุ์เดลตาได้มากถึง 87% ดังนั้น วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง