วันนี้ (26 ก.ค.2564) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15,376 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อใหม่ 14,335 คน ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,041 คน ผู้ป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) 483,815 คน หายป่วยเพิ่ม 6,782 คน หายป่วยสะสม 314,049 คน และเสียชีวิต 87 คน
ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 167,057 คน อยู่ใน รพ. 96,038 คน รพ.สนาม 71,019 คน อาการหนัก 4,289 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 967 คน ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 25 ก.ค. สะสม 15,960,778 โดส เป็นการฉีดเข็มที่ 1 สะสม 12,307,788 คน เข็มที่ 2 สะสม 3,652,990 คน
สำหรับผู้เสียชีวิต 87 คน เป็นชาย 52 คน หญิง 35 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิตที่บ้าน 5 คน โดยพบเชื้อหลังเสียชีวิตที่ จ.ปทุมธานี 4 คน กทม. 1 คน
กทม.มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 40 คน ปทุมธานี 6 คน นครปฐม 6 คน สมุทรสาคร 2 คน นนทบุรี 1 คน สมุทรปราการ 1 คน ปัตตานี 6 คน สงขลา 1 คน กระบี่ 2 คน นครศรีธรรมราช 2 คน นครราชสีมา 2 คน อุบลราชธานี 2 คน กาฬสินธุ์ 1 คน อุดรธานี 1 คน ฉะเชิงเทรา 2 คน ตราด 2 คน ชลบุรี 1 คน ระยอง 1 คน สระแก้ว 1 คน ตาก 2 คน กำแพงเพชร 1 คน สุโขทัย 1 คน สุพรรณบุรี 2 คน เพชรบุรี 1 คน และพระนครศรีอยุธยา 1 คน
ผู้เสียชีวิตมีปัจจัยเสี่ยงโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง 48 คน เบาหวาน 20 คน ไขมันในเลือดสูง 20 คน โรคไต 14 คน โรคอ้วน 10 คน หลอดเลือดสมอง 6 คน โรคปอด 7 คน โรคหัวใจ 3 คน ติดเตียง 3 คน ไม่มีโรคประจำตัว 4 คน
ทั้งนี้ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ติดเชื้อเพิ่ม 2,573 คน ยังไม่รวมผลตรวจด้วยวิธี Antigen Test Kit, สมุทรสาครติดเชื้อ 1,074 คน, สมุทรปราการ ติดเชื้อ 970 คน, ชลบุรี ติดเชื้อ 867 คน, นนทบุรี ติดเชื้อ 719 คน, ระยอง ติดเชื้อ 411 คน, ฉะเชิงเทรา ติดเชื้อ 320 คน, นครปฐม ติดเชื้อ 301 คน และพระนครศรีอยุธยา ติดเชื้อ 290 คน
ตรวจ Antigen Test Kit ติดเชื้อสะสม 1,093 คน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก หรือ Comprehensive Covid-19 Response Team (CCRT) ลงพื้นที่ 57 ชุมชน มีผู้รับบริการ 5,325 คน ส่วนการตรวจด้วย Antigen Test Kit ทั้งหมด 896 คน พบติดเชื้อเพิ่ม 132 คน ยอดติดเชื้อสะสมจากการตรวจด้วยวิธีดังกล่าว 1,093 คน
ส่วนกรณีประชาชนตรวจหาเชื้อตามแล็บเอกชน หรือบริษัทที่จัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit แล้วผลตรวจเป็นบวก (ติดเชื้อ) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ตรวจด้วยวิธี RT-PCT ก่อน ป้องกันผลบวกลวง ก่อนเข้าสู่ Community Isolation นั้น ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือกรณีให้ผู้ป่วยที่ผลเบื้องต้นเป็นบวก เข้าสู่ Community Isolation แต่ต้องแยกส่วนกับกลุ่มผู้ป่วยเดิมในพื้นที่
เร่งขยายเตียงรองรับผู้ป่วย
ในวันนี้ที่ประชุม ศบค. ได้หารือมาตรการการขยายเตียงใน รพ.หลัก 32 แห่ง ไอซียูสนาม 4 แห่ง และ รพ.สนาม 7 แห่ง โดย รพ.บางปะกอก 1 นำเสนอแผนการเพิ่ม Community Isolation อีก 200 เตียง ในช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่เขตทุ่งครุ, Hospitel เพิ่ม 2 แห่ง รวม 800 เตียง, รพ.สนาม 140 เตียง ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ แบ่งเป็นไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 50 เตียง อาการปานกลาง (สีเหลือง) 60 เตียง อาการรุนแรง (สีแดง) 30 เตียง เปิดในช่วงเดือน ส.ค.นี้ นอกจากนี้ ยังปรับวอร์ดรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง อีก 100 เตียง ในเดือน ก.ย.นี้
ขณะที่ รพ.ปิยะเวท อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่รองรับผู้ป่วยทั้งระดับสีเหลือง แดง ทั้งในย่านสี่มุมเมือง สุขสวัสดิ์ บางบอน รามอินทรา รังสิต ส่วน รพ.มงกุฎวัฒนะ มีแผนเพิ่มเตียงอีก 3,320 เตียง ภายในเดือน ส.ค.นี้ โดยสามารถดูแลกลุ่มผู้ป่วยได้ถึงระดับที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องไต และผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดทำคลอด ส่วน รพ.พลังแผ่นดิน 2 เปิดเพิ่ม 720 เตียง และ รพ.พลังแผ่นดิน 3 เปิดเพิ่ม 1,800 เตียง และ รพ.สนาม กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 เพิ่มจาก 320 เตียง เป็น 400 เตียง