เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2564 สถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่ 23 คน จากมาตรการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ 1 คน และมีผู้ป่วยตามโครงการรับกลับบ้าน 3 คน รวม 27 คน
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า แนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ระดับ 20 คน อีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกจำนวนหนึ่ง ที่ถูกแยกกักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงประกอบกับ จ.ภูเก็ต เปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ซึ่งมีผู้คนที่ต้องการทำงานเดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น มีกลุ่มญาติของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตามมาตรการภูเก็ตแซนบ็อก และการพบเชื้อกลายพันธุ์ ทำให้มีการแพร่กระจายไปในวงกว้างและรวดเร็วมากขึ้น
เดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อก ยกระดับคัดกรองเข้าพื้นที่
ขณะที่ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน มาตรการ ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ต่อไป แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ต้องหยุดลง
ทั้งนี้ จ.ภูเก็ต ได้ยกระดับเพิ่มมาตรการเข้มในการคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่ โดยกำหนดให้คนที่จะเดินทางมาจาก 76 จังหวัด รวมทั้งคนภูเก็ตที่จะเดินทางเข้าภูเก็ต จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด คือ มีการฉีดวัคซีนครบโดสและมีผลตรวจ COVID-19 เป็นลบ ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง โดยมาตรการดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. - 2 ส.ค.2564
ปิดสถานที่เสี่ยง - จำกัดการรวมกลุ่ม
ด้านนายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อครั้งที่ 44 / 2564 เพิ่มมาตรการ ปิดพื้นที่เสี่ยงที่เป็นจุดของการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 โดย
- ปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลฟลอเรสต้า และ Festival เป็นระยะเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. - 2 ส.ค.2564
- ปิดโรงเรียน สถานศึกษาต่อไปจนถึงวันที่ 16 ส.ค.2564
- ปิดสนามกีฬา สนามฟุตบอลสนามฟุตซอล และสนามแบดมินตัน
- การจัดกิจกรรมรวมตัวกันได้ไม่เกิน 100 คน
- ตลาดนัด/ตลาดสด จำกัดคนเข้าใช้พื้นที่ 4 ตร.ม. /คน
ทั้งนี้ จะมีประกาศ/คำสั่ง จังหวัดภูเก็ต เพื่อบังคับใช้โดยเร็วที่สุด ต่อไป
ด้าน นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้า การฉีดวัคซีนในจังหวัดภูเก็ตว่า ประชาชนใน จ.ภูเก็ต กว่า 70% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และจะมีการฉีดวัคซีน เข็มที่ 3 (Booster dose )ให้กับทีมแพทย์พยาบาลบุคลากรด่านหน้า ซึ่งขณะนี้ จ.ภูเก็ต มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับบุคลากร เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมเตรียมการทั้งจำนวนเตียงและโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วย