วันนี้ (31 ก.ค.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการนัดหมายในช่วงบ่ายของวันนี้ว่า ขณะนี้พบการนัดหมาย 1 กลุ่ม คือกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายธนเดช ศรีสงครามหรือม่อนอาชีวะ นัดรวมกลุ่มจัดกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่งในช่วงเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป และจะทำกิจกรรมคาร์ม็อบไปตามเส้นทางผ่านบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งสู่แยกราชประสงค์ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แนะนำประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงเส้นทาง
ขณะที่ในวันที่ 1 ส.ค. พบผู้ชุมนุม 4 กลุ่ม ที่มีการนัดหมายทำกิจกรรม ประกอบด้วยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงเช้า ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นัดหมายที่แยกราชประสงค์ในช่วงเช้าเช่นเดียวกัน และมีกำหนดเคลื่อนขบวนไปยังถนนวิภาวดีรังสิต
อีกกลุ่มเป็นกลุ่มคาร์ม็อบของนายสมบัติบุญงามอนงค์ นัดหมายทำกิจกรรมคาร์ม็อบ จะขับรถไปวนที่ถนนวิภาวดีรังสิตในช่วงบ่าย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มแท็กซี่ไม่ทน นำโดยนายวรพล แกมขุนทด นัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบเช่นกัน โดยจะเริ่มกิจกรรมในช่วงเวลา 12.00 น. จะเดินทางไปตามพรรคร่วมรัฐบาลและบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ปลายทางเพื่อจะเข้าร่วมกลุ่มของนายสมบัติ ซึ่งการนัดรวมตัวจัดกิจกรรมการชุมนุมทั้งในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ ตำรวจได้จัดเตรียมกำลัง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย
เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดการชุมนุม 30 ก.ค.
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดทำกิจกรรมรวมตัวกันในระยะนี้ว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายมีความผิด ประกอบกับอยู่ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมากก็มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการนัดรวมตัวจัดกิจกรรมต่างๆ
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า "ทะลุฟ้า" เมื่อวานนี้ พบมีกิจกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยมีกิจกรรมที่หน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ พบผู้ชุมนุมบางส่วนนำสติกเกอร์ไปติดหน้าป้าย สาดสีใส่ป้ายพรรคและเผาหุ่นฟาง
ซึ่งขณะนี้ตำรวจในท้องที่ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สน.บางเขน สน.พหลโยธิน สน.บางซื่อ และ สน.พญาไท อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เบื้องต้น เข้าข่ายมีความผิดในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญ หรือกระทำการอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
นอกจากนี้ ยังมีข้อหาเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแต่ไม่เลิก ข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ร่วมกันทำให้เกิดเพลิงไหม้วัตถุใดอันน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่นและร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่า จะใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มต่างๆ ทั้งหมด 9 กลุ่ม นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 ขณะนี้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไปแล้ว 225 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ "ภูมิใจไทย" ถอนตัวจากรัฐบาล