“วราวุธ” กำชับคทช.จังหวัดเร่งเสนอใช้ที่ดินทำกิน 3.9 ล้านไร่

สิ่งแวดล้อม
3 ส.ค. 64
09:49
1,032
Logo Thai PBS
“วราวุธ” กำชับคทช.จังหวัดเร่งเสนอใช้ที่ดินทำกิน 3.9 ล้านไร่
"วราวุธ” เร่งรัดคทช.จังหวัด เสนอขออนุญาตการใช้ที่ดิน เพื่อส่งมอบให้ประชาชนทั้ง 3.9 ล้านไร่ ภายในสิ้นปี 2564 เพื่อให้รองรับหลังสถานการณ์ COVID-19

วานนี้ (2 ส.ค.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference โดยขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ในการเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เร่งดำเนินการขออนุญาตการใช้ประโยชน์ที่ดิน

โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับประชาชนได้ครบทั้ง 3.9 ล้านไร่ ใน 76 จังหวัด ได้ทันภายในสิ้นปี 2564 เพื่อให้ชาวบ้านได้มีที่ดินทำกินหลังช่วงภาวะวิกฤต COVID-19 และเป็นการเร่งแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

เร่งจัดสรรที่ดินทำกิน 1,353 พื้นที่ 4.1 ล้านไร่

ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่ได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนระหว่างปี พ.ศ.2558-2564 จำนวน 1,353 พื้นที่ 70 จังหวัด เนื้อที่รวม 4.1 ล้านไร่

ประกอบด้วย 7 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ราชพัสดุ และพื้นที่นิคมสร้างตนเอง

โดยได้มีการอนุญาตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนไปแล้วจำนวน 2.3 ล้านไร่ จากพื้นที่เป้าหมาย 3.9 ล้านไร่ พร้อมทั้งรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะทำงานศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จ.ระนอง

นายวราวุธ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีมติให้ความเห็นชอบผลการดำเนินงานจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนของ คทช. จังหวัด เห็นชอบการขอแก้ไขชื่อและเนื้อที่ ในพื้นที่ที่คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ บ้านปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง และบ้านทางสาย จ.ตรัง เห็นชอบการกำหนดพื้นที่เป้าหมายเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินการจัดที่ดินในปี พ.ศ.2564 จำนวน  7,171 ไร่

นอกจากนี้ เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่นิคมสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า และนิคมสหกรณ์แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวมทั้งให้ความเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาราษฎรอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร ป่าห้วยสำราญ จ.สุรินทร์ และป่าหมายเลข 10 จ.ชัยภูมิ

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง