กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปภาพที่ชาวบ้านริมแม่น้ำปิง ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบมีผู้นำเจ็ตสกี 2 ลำมาวิ่งในแม่น้ำปิง ส่งเสียงดังและเร่งเครื่องแข่งกันวิ่งไปมาในแม่น้ำปิง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนและห่วงจะกระทบต่อระบบนิเวศ
วันนี้ (9 ส.ค.2564) นายพงษ์ธร ชำนิกุล ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า วันนี้จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยจะนำเรือล่องไปตามลำน้ำปิง สอบถามชาวบ้านในพื้นที่อย่างละเอียด เนื่องจากการจะนำเจ็ทสกีลงในแม่น้ำได้ จะมีการบรรทุกเรือลงมาริมตลิ่งที่เป็นจุดที่จะนำเจ็ทสกีมาลงได้
อยู่ระหว่างตรวจสอบท่าเรือบริเวณริมน้ำปิงหาจุดที่เจ็ทสกีสองลำนี้ลงแม่น้ำปิง และติดตามหาตัวคนขับ เบื้องต้นมีข้อมูลว่ามีไม่กี่แห่งที่จะลากเจ็ทสกีมาลงได้ พร้อมทั้งจะประสานกับทางท้องถิ่นว่ามีเรือ หรือการบรรทุกเจ็ทสกีเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ เชื่อว่าตามหาได้ไม่ยาก
ภาพ:กูรูเชียงใหม่ เรื่องเชียงใหม่กูรู้
ภาพ:กูรูเชียงใหม่ เรื่องเชียงใหม่กูรู้
ส่อความผิด 2 ข้อหาใช้เรือไม่ได้รับอนุญาตในแม่น้ำ
นายพงษ์ธร กล่าวว่า สำหรับการนำเจ็ทสกีมาแข่งในแม่น้ำปิง เหตุการณ์ลักษณะนี้มีความผิด เพราะส่งเสียงดังสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากนี้หากพบว่ายานพาหนะดังกล่าวไม่ได้รับการอนุญาตมาวิ่งในแม่น้ำก็จะมีความผิด หรือแม้แต่มีใบอนุญาต แต่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน
เบื้องต้นตรวจสอบในพื้นที่มีการขออนุญาตจดทะเบียนเจ็ทสกีปี 2563 เพียง 1 ลำ ส่วนปี 2564 มีการขอต่อทะเบียนเจ็ทสกี 2 ลำ เป็นเรือที่นำมาจากพื้นที่อื่น
ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับความผิดอาจจะมี 2 กรณี กรณีแรกจะดูมีการใบอนุญาตใช้เรือหรือไม่ ถ้าไม่มีจะมีโทษใช้เรือไม่ได้รับอนุญาตความผิดตามพ.ร.บ.เดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนกรณีที่ 2 ถัาไม่มีประกาศนียบัตร หรือใบขับขี่เรือ ที่กําหนดไว้ในข้อบังคับนใบขับขี่เรือที่เหมาะสม โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000-10,000 บาท
กรณีนี้เป็นเคสแรกที่เจอว่านำเจ็ทสกีมาแข่งในแม่น้ำปิง ที่ผ่านมาเรือนำเที่ยวมากกว่า ซึ่งหากปล่อยให้มีการนำมาแข่งกันแบบนี่ในระยะยาวจะทำให้ตลิ่งทรุด และประเด็นสำคัญคือก่อความเดือดร้อนรำคาญ