วันนี้ (20 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2565 วันที่ 3 ช่วงเย็นมีการอภิปรายในมาตรา 21 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงยุติธรรม จำนวน 45,723 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายงบกระทรวงยุติธรรม โดยขอปรับลดงบ 5 % จำนวน 550 ล้านบาทในส่วนของการขอตั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์แห่งที่ 2 เพราะไม่มีความจำเป็น เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ปัจจุบันไม่ได้ดูแลและปกป้องสุขภาพ หลังจากพบว่ามีเยาวชนที่ไม่ได้ป่วย COVID-19 แต่เมื่อถูกจับเข้าไปในเรือนจำ กลับพบการติดเชื้อ มีภาวะต้องดูแลรักษา ฝ้าลงปอด แต่หากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่สามารถดูแลเยาวชนได้ ควรส่งให้โรงพยาบาลภายนอก
การใช้งบในการตั้งสถาบันพัฒนากระบวนการยุติธรรมเพราะมองว่าไม่ตอบโจทย์ พร้อมเรียกร้องแทนผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ในกรมราชทัณฑ์ ควรส่งต่อให้ได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้
ส่วนนายณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามเกี่ยวกับการดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำว่าใช้หลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเรือนจำแออัด และบางเรือนจำไม่สามารถตรวจสอบการใช้งบได้
ดังนั้นถ้าใช้งบในการดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำอาจถือว่าสอบตก จากตัวชี้วัดอัตราผู้กระทำความผิดซ้ำที่ได้รับการปล่อยตัวสูงกว่า 14% ทุกปี พบปี 63 จำนวน 12.62% ปี 64 จำนวน 5.28% และยังไม่มีแนวโน้มลดลง
โดยงบสูงถึง 8,276 ล้านบาท แบ่งเป็นงบดูแลผู้ต้องขัง 4,787 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงบค่าอาหาร 4,533 ล้านบาท หรือ 94.7% เหลือไว้ดูแลผู้ต้องขังเพียง 256 ล้านบาทหรือ 1% ส่วนที่เหลือ งบจัดอบรมเจ้าหน้าที่ งบคุรุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้าง 41% จำนวน 3,410 ล้านบาท
สิ่งที่ควรมีกลับไม่มี ตอนนี้เรือนจำไทยยังการใช้โซ่ตรวน ทั้งที่ศาลปกครองเคยวินิจฉัยขัดต่กกฎหมายสิทธิมนุษยชนและรัฐธรมนูญ ดังนั้นงบ 500,000 บาทจัดซื้อโซ่ตรวนควรตัดทิ้งไป
สอดไส้งบกำลังใจ
นายณธีภัสร์ ระบุอีกว่า นอกจากนี้พบสอดไส้โครงการที่ไม่ใช่ภารกิจ เช่น โครงการกำลังใจ พบว่าก้าวกระโดดจากปี 63 ตั้งงบแค่ 8 ล้านบาท เพิ่มเป็น 24 ล้านบาทในปี 64-65 ซึ่งจากการตรวจสอบพบปี 64 เพิ่งจ่ายไปแค่ 5 ล้านบาท อยากให้นำงบไปใช้ในการฟื้นฟูผู้ต้องขัง จึงเสนอขอตัดลดของกระทรวงยุติธรรม 10% เป็นเงิน 1,192 ล้านบาท
ติงของบปราบจลาจลงบสูงลิ่ว
นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ พรรคก้าวไกล ขอให้จัดหาหน้ากากที่ได้มาตรฐานแทนหน้ากากผ้า เฉลี่ยคนละ 30 ชิ้นต่อเดือน จัดหาวัคซีน COVID-ให้ผู้ต้องขัง และเปิดเผยข้อมูลสุขภาพให้กับญาติและทนายของผู้ต้องขังเพราะจากการดูมิติงบขอด้านคุรุภัณฑ์เพื่อสนับสนับสนุนเจ้าหน้าที่
แต่มีบางรายการที่ใช้ในการระงับเหตุในเรือนจำเกินความจำเป็น เช่น ชุดเครื่องแบบปราบจลาจล 177 ชุด ชุดละ 18,500 บาท โล่ปราบจลาจล 141 ชุด ราคาชุดละ 13,000 บาท หมวกปราบจลาจล และกระบอง 353 อัน โล่กันกระสุน 2 ชิ้น 700,000 บาท เสื้อพันธนาการ 83 ตัวๆละ 8,000 บาท กล้องถ่ายภาพในช่องปาก ราคา 2.2 ล้านบาท แต่กรมควบคุมโรคจัดซื้อในราคา 500,000 บาท
ผมสงสัยว่าไปกันกระสุนในเรือนจำหรืออย่างไร ถ้าปล่อยให้มีนักโทษใช้กระสุนในเรือนจำได้ก็ต้องพิจารณาแล้วว่ารับมาได้อย่างไร
ทั้งนี้ หลังจากการอภิปรายที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก 222 เสียงเห็นชอบกับกมธ.เสียงข้างมาก ต่อ 77 เสียง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัดงบฯ พาณิชย์ ล้มเหลวแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
จับตางบฯ "มหาดไทย" สร้างกำแพงกันคลื่น- ขอคืนงบฯให้ท้องถิ่นซื้อวัคซีน