กรณีข่าว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวก กระทำความผิด “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ฯ” และได้มีการเผยแพร่ในสื่อสาธารณะว่า ผู้ต้องหาได้มีการครอบครองรถยนต์ จำนวน 29 คัน และมีรถยนต์รถหรูรวมอยู่ในนั้นด้วย
วันนี้ (26 ส.ค.2564) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีรถยนต์ลัมโบร์กีนี หมายเลขตัวรถ ZHWEC1ZD6ELA……… ในความครอบครองของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่า รถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในคดีพิเศษที่ 199/2560 ที่ดีเอสไอรับผิดชอบ และได้มีการดำเนินคดีกับขบวนการผู้ร่วมกันกระทำความผิด รวม 8 คน ในความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 (มาตรา 27 และมาตรา 115 จัตวา แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469) พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 (มาตรา 165 มาตรา 167 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527) และตามประมวลกฎหมายอาญา
ผู้กระทำความผิดเป็นบริษัทนำเข้าได้ร่วมกันนำรถยนต์ใหม่สำเร็จรูปจากต่างประเทศมาในราชอาณาจักรโดยสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ซึ่งได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562 ปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด ส่วนกระบวนการสอบสวนของดีเอสไอเกี่ยวกับรถคันนี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว พบว่ามีภาษีอากรรวมขาด 31,201,083.08 บาท
รัฐต้องเรียกเก็บภาษีคืน 31 ล้านบาท จากการตรวจสอบเบื้องต้นการครอบครองครั้งแรกเป็นของนายธิติสรรค์ ก็คือผู้กำกับโจ้ แต่ไม่ได้ใช้ยศ
การครอบครองรถครั้งแรกเป็นชื่อของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นการซื้อโดยปกติ ลักษณะผ่อนชำระ แต่ขณะนี้ได้โอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองเป็นบุคคลอื่นแล้วเมื่อเดือน ก.พ.2564 ไม่ทราบว่ามีการซื้อขายกันอย่างไร
คดีดังกล่าวดีเอสไอดำเนินคดีกับบริษัทนำเข้าโดยหลบเลี่ยงภาษี หากผู้ซื้อมีส่วนร่วมรู้เห็นก็มีโอกาสถูกดำเนินคดี แต่เบื้องต้นมีรายละเอียด พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นเพียงผู้ซื้อรถคันนี้และครอบครองอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถคันอื่น ๆ
รถที่นำเข้าผิดกฎหมาย ปกติราคา 200,000 ปอนด์ อาจจะแจ้งแค่ 20,000 ปอนด์ เพื่อหลบเลี่ยงภาษี 328%
ทั้งนี้ คดีพิเศษที่ดีเอสไอรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับรถยนต์ราคาแพง (รถหรู) ความผิดที่เกี่ยวกับการสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริงทั้งหมด มีจำนวนทั้งสิ้น 216 คดี และได้สอบสวนเสร็จสิ้นส่งสำนวนการไปยังพนักงานอัยการแล้ว จำนวน 150 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 66 คดี
นอกจากนี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังกล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. … หรือเรียกว่า พ.ร.บ.อุ้มหาย ว่า ยังรอว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด คาดว่าใกล้มีผลบังคับใช้แล้ว เพราะดีเอสไอได้เตรียมคณะทำงานเรื่องนี้ไว้แล้ว ส่วนตัวเห็นว่า การซ้อมทรมานใครก็รับไม่ได้ โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเน้นเด็ดขาด อย่าแตะตัวผู้ต้องหา อย่าโดนเนื้อโดนตัว หรือทำอะไร เพราะไม่ได้พูดถึงกฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องมนุษยธรรมด้วย