ศบค.คลายล็อก 1 ก.ย. เปิดห้างฯ ทุกแผนก - นั่งในร้านอาหารได้

สังคม
27 ส.ค. 64
14:11
52,012
Logo Thai PBS
ศบค.คลายล็อก 1 ก.ย. เปิดห้างฯ ทุกแผนก - นั่งในร้านอาหารได้
ศบค.มีมติคลายล็อกกิจการ/กิจกรรมใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม เปิดห้างสรรพสินค้าได้ทุกแผนกภายใต้มาตรการที่กำหนด เปิดร้านเสริมสวย ให้นั่งในร้านอาหารได้โดยจำกัดจำนวนคน พร้อมคงเคอร์ฟิวต่ออีก 14 วัน เริ่ม 1 ก.ย.นี้

วันนี้ (27 ส.ค.2564) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยระบุว่า ที่ประชุม ศบค.มีมติสีไม่ปรับพื้นที่สถานการณ์ย่อยของโรค COVID-19 แต่มีการอนุญาตให้เปิดกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติมตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด


แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะยังไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่สถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์โดยทั่วไปในทั่วโลก จึงปรับกลยุทธ์ควบคุมโรคให้สมดุล สร้างความมั่นใจ เพื่อให้การควบคุมโรคสอดคล้องกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย

29 จว.สีแดงเข้มคงเคอร์ฟิว-เน้น WFH ต่อ 14 วัน

ขณะเดียวกัน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้คงมาตรการ Work From Home และยังห้ามออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 21.00 - 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น อย่างน้อย 14 วัน พร้อมยกระดับมาตรการควบคุมโรคส่วนบุคคล และมาตรการองค์กร เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต ในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด

พญ.อภิสมัย ระบุอีกว่า การปรับมาตรการป้องกัน COVID-19 แบ่งเป็น 1.ยกระดับมาตรการสำหรับเปิดกิจการ/กิจกรรมให้ปลอดภัยและยั่งยืนด้วยหลักการ COVID-Free Setting และ Universal Prevention สำหรับสถานที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยง

มาตรการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ สำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมปฏิบัติตามมาตรการ ถ้ายังไม่พร้อม ก็ศึกษาข้อปฏิบัติก่อน โดยมีสมาคมภัตตาคารไทยเป็นพี่เลี้ยง เมื่อพร้อมจึงดำเนินการได้

 


พญ.อภิสมัย ระบุว่า จะมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่ง ศปก.ศบค. เน้นย้ำว่า วัคซีนในระยะต่อไปรัฐบาลจะนำเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง และจะเร่งระดมฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด โดยพิจารณาถึงอาชีพเสี่ยงเพิ่มเติมด้วย ส่วน ATK ได้รับการเร่งรัดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น โดยให้ความเร่งด่วนในพื้นที่เสี่ยง ซึ่ง 8.5 ล้านชุด ได้ลงนามแล้วในวันนี้

เดินทางข้ามจังหวัดได้เท่าที่จำเป็น-นั่งในร้านอาหารได้

2.การเปิดกิจการ/กิจกรรม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ภายใต้มาตรการที่กำหนด

2.1 เดินทางจ้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น ขนส่งสาธารณสุขต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 75% สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร

2.2 การเปิดบริการร้านอาหาร หากอยู่นอกอาคารหรือไม่มีเครื่องปรับอากาศให้นั่งได้ 75% ส่วนร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศให้นั่งได้ 50% โดยผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และมีการกำกับดูแลด้วย

ห้างฯ เปิดได้ทุกแผนก ยกเว้นบางกิจการมีเงื่อนไข

2.3 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดดำเนินการได้ทุกแผนก ภายใต้มาตรการฯ ยกเว้น กลุ่มที่ 1 กิจการ/กิจกรรมที่เปิดได้แบบมีเงื่อนไข ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ส่วนร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า

สำหรับคลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น (อาจมีการนัดหมายล่วงหน้า เมื่อมีความพร้อม) และร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไขของมาตรการร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศ

กลุ่มที่ 2 กิจการ/กิจกรรมที่ยังไม่เปิดบริการ ได้แก่ สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องจัดประชุม/จัดเลื้ยง ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การกำกับติดตามมาตรการ โดยสภาหอการค้าไทย และ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร เปิดถึง เวลา 20.00 น.

2.4 ส่วนการเปิดกิจการ/กิจกรรมนอกห้างสรรพสินค้า ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านนวด เฉพาะนวดเท้า ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้ประกอบการ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร

ยังไม่เปิดเรียน Onsite-แข่งกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชม

2.5 สำหรับสถานศึกษายังไม่เปิดเรียน แต่ขอใช้อาคารและสถานศึกษาได้ โดยผ่านความเห็นชอบของผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในพื้นที่ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนั้น สถานศึกษาบางแห่งจำเป็นต้องจัดสอบ/จัดประชุม สามารถขออนุญาตก่อนและผ่อนผันได้เป็นกรณีไป

2.6 สนามกีฬา และสวนสาธารณะ ประเภทกลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ สามารถใช้ในการเล่น ซ้อม หรือแข่งขันกีฬาได้แบบไม่มีผู้ชม โดยให้มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร สามารถเปิดใช้สนามกีฬาทุกประเภทสำหรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย แบบไม่มีผู้ชม โดยแจ้งให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร ทราบล่วงหน้าก่อนการเริ่มใช้

ทั้งนี้ ผู้จัดการแข่งขัน ต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้จัดการแข่งขัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร เปิดถึง เวลา 20.00 น. โดยมาตรการทั้งหมดจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ก.ย.2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง