"พล.ต.อ.สุชาติ" เชื่อมีผู้กระทำผิด "คดีคลุมถุง" มากกว่า 7 คน

สังคม
27 ส.ค. 64
17:59
353
Logo Thai PBS
"พล.ต.อ.สุชาติ" เชื่อมีผู้กระทำผิด "คดีคลุมถุง" มากกว่า 7 คน
รอง ผบ.ตร.เปิดเผยการสืบสวนสอบสวนในคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ขณะนี้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมและอาจมีผู้ร่วมกระทำผิดมากกว่า 7 คน แต่อาจต่างกรรมต่างวาระ ข้อหาต่างกันไป อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน

วันนี้ (27 ส.ค.2564) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนในคดีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 นาย เป็นผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ จากกรณีใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดระหว่างสอบสวน เป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า การสืบสวนสอบสวนในคดีขณะนี้คืบหน้ามากพอสมควร

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและเหตุการณ์ก่อนหน้าจะซ้อมทรมาน พบความเชื่อมโยงของเหตุการณ์และผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทำให้คดีนี้อาจจะมีผู้เกี่ยวข้องและถูกดำเนินคดีมากกว่า 7 คน แต่ยังต้องพิจารณาความผิดให้ชัดเจนก่อนแจ้งความเนินคดีเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นความผิดรายบุคคลตามพฤติการณ์ เนื่องจากต่างกรรม ต่างวาระ 

ส่วนเรื่องการทำบันทึกการทำงานของตำรวจ ชุดปราบปรามยาเสพติด หรือ ชุด 05 ที่ก่อเหตุซ้อมทรมานผู้ต้องหา ตรวจสอบพบบันทึกการล่อซื้อยาเสพติดจริง โดยมีบันทึกข้อความและเลขธนบัตรที่ใช้ในการปฏิบัติการ แต่ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม

ขณะที่การสอบปากคำแฟนสาวผู้ตาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลสอดคล้องกับภาพวงจรปิดและเป็นประโยชน์ต่อคดีแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะที่ประเด็นการสอบสวนพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ให้ข้อมูลในระยะแรกที่ขัดจากเหตุการณ์จริง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดจากความเข้าใจผิดโดยเชื่อคำพูดของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ที่รายงานแจ้งทราบหลังเกิดเหตุโดยไม่คิดว่า จะมีเหตุการณ์อื่นกระทั่งได้ดูคลิปวิดีโอชุดที่ปรากฏตามสื่อออนไลน์

ส่วนประเด็นการสืบสวนเรื่องผู้ให้ความช่วยเหลือ นำพา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ออกนอกพื้นที่ ไป จ.ชลบุรี โดยรถยนต์มินิคูปเปอร์สีน้ำตาล รวมถึง รถยนต์เก๋งสีขาว ที่ปิดบังป้ายทะเบียนขณะพา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เข้ามอบตัวที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องอย่างไร แต่ขอให้เป็นเรื่องการสืบสวน หากบอกออกไปทั้งหมดก็กระทบการทำงานเจ้าหน้าที่และขณะนี้ ชุดทำงานต้องให้น้ำหนักในคดีหลักมากที่สุด

สำหรับคดีนี้ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ถูกแจ้งความดำเนินคดีเดียวกัน โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,289,309 วรรคสอง ซึ่งเป็นความผิดความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ,ความผิดต่อชีวิต และความผิดต่อเสรีภาพ และทั้งหมดถูกส่งตัวฝากขังค่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง