นายกฯ ชี้แจงรายได้ท่องเที่ยวลดลง ไม่ใช่บริหารงานล้มเหลว

การเมือง
1 ก.ย. 64
14:31
333
Logo Thai PBS
นายกฯ ชี้แจงรายได้ท่องเที่ยวลดลง ไม่ใช่บริหารงานล้มเหลว
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการบริหารงานท่องเที่ยว ระบุรายได้ท่องเที่ยวลดลงไม่ได้เป็นประเทศเดียว ต่างประเทศประสบปัญหาเช่นเดียวกัน จะกล่าวว่ารัฐบาลบริหารล้มเหลวไม่ถูกต้อง ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุ 1 ต.ค.นี้ เตรียมเปิดให้คนไทยเที่ยวในประเทศ

วันนี้ (1 ก.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยขอความเป็นธรรมให้กับรัฐบาลในหลาย ๆ กรณีที่ถูกอภิปราย พร้อมกล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์การท่องเที่ยวว่ามีความล้มเหลวและผิดพลาด โดยระบุว่า การท่องเที่ยวมีรายละเอียดมากมาย จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวชี้แจงรายละเอียดต่อไป แต่ยืนยันว่า การท่องเที่ยวรัฐเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

ขณะที่เรื่องแผนเปิดประเทศ ถ้าสามารถทำได้ในเดือน ต.ค. ก็ทำ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เปิดเป็นเซ็ตเตอร์ไปก่อน ถึงเราจะเปิดเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าการระบาดในโลกยังมีอยู่ การที่เขาจะเข้ามาเที่ยว แน่นอนมันต้องน้อยลงเสมอ แต่ไทยเป็นเป้าหมายสำคัญที่เขาจะมา ถ้าสามารถดำเนินการทั้งประเทศต้นทางและปลายทาง ซึ่งผมก็ไปเจรจา ซึ่งไทยเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว และจะขยายไปจังหวัดอื่น ๆ

ทุกคนต้องช่วยกัน ท่านแนะนำอะไรผมมา ท่านก็ต้องช่วยด้วย ในฐานะที่ท่านเป็น ส.ส. อย่าทำให้คนแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย เพราะมันจะไม่เกิดความร่วมมือ

แม้รายได้การท่องเที่ยวของไทยปี 2563 จะลดลง อย่างมากถึง 76 % แต่ก็ไม่ใช่ประเทศเดียว ยังมีอีก 3 ประเทศที่รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงเช่นกัน สเปน ลดลง 77 % ญี่ปุ่น ลดลง 77% มาเก๊า ลดลง 79 % จะกล่าวว่า รัฐบาลบริหารล้มเหลวไม่ให้คนมาเที่ยวก็ไม่ถูกต้อง เพราะต่างประเทศก็ประสบปัญหาเหมือนกัน

ประเทศไทยมีมาตรการรองรับอยู่ วันนี้เราก็มีนักท่องเที่ยว ใช้จ่ายวันละหลายหมื่น จองโรงแรมหลายโรงแรม เช่าห้องพักมากขึ้น ในสถานการณ์วิกฤต

จะบอกว่าพวกผมบริหารไม่ดี เขาไม่มาเที่ยว เพราะโควิด แล้วประเทศอื่นมีโควิดไหม มีเสียชีวิตมากกว่าเราหรือเปล่า ในส่วนของเราผมเสียใจและขอโทษ ถ้าทำอะไรให้ไม่พอใจ ผมลูกผู้ชายพอ

ทั้งนี้ แน่ใจว่าภายใน 4-5 ปี ประเทศไทยจะเห็นหน้าเห็นหลังแน่นอน จากโครงสร้างต่าง ๆ ที่ทำไว้ทั้งหมด ซึ่งทำมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้และในช่วงโควิดก็ยังดำเนินการต่อ ซึ่งเราไม่เคยหยุดงาน

สำหรับเรื่องการต่างประเทศ รัฐบาลดำเนินการอย่างสมดุลย์ ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร พูดแบบนี้มันเสียเกียรติภูมิประเทศไทย ผมทำทุกอย่างในการต่างประเทศอย่างสมดุลย์ระหว่างมหาอำนาจทุกมหาอำนาจ ในเวทีต่างประเทศผมก็ไม่น้อยหน้าใคร

ผมทำทุกอย่างในการประชุมทุกระดับ ปีนี้ไทยจะเป็นประธานในการประชุมเอเปกด้วย ผมได้รับการตอบรับจากผู้นำประเทศ หลายประเทศ

 

ด้านการเกษตร อย่าบอกว่า รัฐไม่ได้ทำอะไร ท่านเคยคิดถึงเรื่องเกษตรแปลงใหญ่ไหม วันนี้มีเกษตรแปลงใหญ่ 367 แปลง เพราะคนไทยมีที่ดินประมาณ 3-5 ไร่ ไม่มีทางที่จะมีเงินเหลือใช้ เพราะมีแต่หนี้

การทำเกษตรแปลงใหญ่ รัฐบาลจะเข้าไปส่งเสริมและช่วยเหลือ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง การเปลี่ยนแปลงการปลูกพืช รัฐบาลพร้อมที่จะเข้าไปดูแลให้ ในเรื่องการพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิต เริ่มระยะแรก 74,000 ไร่ ถ้ามีแต่คนค้านทุกอย่างก็จะเดินหน้าไม่ได้

ด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ SME รัฐได้มีการพัฒนาทักษะในการประกอบการธุรกิจ พยายามให้พวกเขาเข้มแข็ง มีการแยกประเภท แยกกลุ่ม พร้อมพัฒนาศักยภาพให้พวกเขา แต่อย่าลืมว่าที่ผ่านมา หลาย SME ไม่เคยขึ้นทะเบียน รัฐบาลพยายามช่วยปลดล็อกและให้พวกเขาเข้าถึงเงินทุนต่าง ๆ ทั้งซอฟต์โลนและเงินกู้ต่าง ๆ

ส่วนเรื่องสุขภาพเรื่องวัคซีน ชี้แจงหมดแล้ว ปีนี้ยืนยันว่าได้รับครบจำนวน โลกเขาไม่ต้องการให้วัคซีนเป็นข้อขัดแย้งทางการเมือง ท่านพูดไปเรื่อย ๆ ด้อยค่าไปเรื่อย ๆ แล้ววันข้างหน้าเราจะได้วัคซีนหรือไม่

ชี้แจงกรณีการเปิดประเทศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงกรณีการเปิดประเทศใน 120 วัน ซึ่งนำร่อง 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 360,000 ห้องพัก มีคนติดโควิด 80 คน ในระยะเวลา 61 วันอัตราเฉลี่ย 1 คนต่อวัน มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000-70,000 บาทต่อคน ส่วนสมุยพลัสโมเดล มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก 5,727 คน

ในระยะที่ 2 วันที่ 1 ต.ค.2564 เตรียมเปิดเพิ่ม อีก 5 จังหวัด คือ กทม. ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ และระยะที่ 3 เริ่มวันที่ 15 ต.ค.2564 อีก 21 จังหวัด ครอบคลุมทั้งประเทศ

ภาคเหนือ คือ ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย สุโขทัย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ

ภาคตะวันตก คือ กาญจนบุรี ราชบุรี 

ภาคตะวันออก คือ ราชบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด พระนครศรีอยุธยา

ภาคใต้ คือ ระนอง ตรัง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช

และจากนั้นจะเริ่มระยะที่ 4 ซึ่งจะคร่อมถึงปี 65 และบับเบิลคร่อมในพื้นที่ติดต่อชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา แถวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถวภาคใต้แถวปาดังเบซาร์ มาเลเซีย เปิด 1 ม.ค. - 15 ม.ค. 2565

ยืนยันว่านโยบาย 120 วัน ในการเปิดการท่องเที่ยวตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ต้องอยู่ในความพร้อมและความเห็นทางด้านสาธารณสุข

ส่วนคนไทยจะสามารถเปิดให้ท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ เนื่องจากภาคเหนือและภาคอีสาน เข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนฝั่งอันดามันเป็นช่วงท่องเที่ยวทะเล ยกเว้นฝั่งอ่าวไทย ที่เข้าสู่มรสุม

วัคซีนพร้อม พร้อมเปิดประเทศ

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การเปิดประเทศยังต้องสอดคล้องกับการรับวัคซีนคนไทยด้วย โดยเดือน ก.ย.2564 จะมีวัคซีนเข้ามาอีก 16 ล้านโดส เดือน ต.ค. 24 ล้านโดส เดือน พ.ย. 23 ล้านโดส และ เดือน ธ.ค. 23 ล้านโดส ดังนั้นการเปิดประเทศต้องสอดคล้องกัน ความพร้อมคือพื้นที่ไหนได้รับวัคซีนแล้ว 70 % จะหารือเป็นรายพื้นที่หรือรายอำเภอ

ยืนยันนายกฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ในช่วงโควิด ทั่วโลกก็ประสบปัญหาเดียวกัน การที่จะทำให้ท่องเที่ยวมีความเติบโตแบบปี 62 คงเป็นไปไม่ได้ แต่จะเปิดให้ท่องเที่ยวท่ามกลาง COVID-19 ต้องศึกษาและปรับรายละเอียดกันไปตามสถานการณ์ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง