กกร.ยื่นคำขาดถึงรัฐบาล "ห้ามล็อกดาวน์" ประเทศอีก

เศรษฐกิจ
1 ก.ย. 64
15:27
5,392
Logo Thai PBS
กกร.ยื่นคำขาดถึงรัฐบาล "ห้ามล็อกดาวน์" ประเทศอีก
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ย้ำไม่ควรประกาศล็อกดาวน์ประเทศอีก ประเมินเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง เข้าสู่ภาวะถดถอย หากรัฐบาลกระจายวัคซีนไม่ได้ตามแผน เสนอขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะ 70% ของจีดีพี และใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ทันไฮซีซั่น

วันนี้ (1 ก.ย.2564) ภายหลังประชุมคณะกรรมการ ร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน โดยนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธาน กกร. กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดที่มีสัญญาณดีขึ้น จนนำไปสู่ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้เป็นวันแรก


อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณายอดผู้ติดเชื้อในประเทศ ในช่วงล็อกดาวน์ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้รัฐบาล "ห้ามประกาศล็อกดาวน์อีก" แต่ควรเร่งกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ และสื่อสารต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา ไม่สร้างความสับสนอีก เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ประเมินจีดีพีทั้งปีติดลบ ร้อยละ 0.5-1 

ทั้งนี้ แม้รัฐบาลประกาศเปิดเมืองแต่ กกร.เห็นว่า เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง เข้าสู่ภาวะถดถอยได้ โดยคาดว่า จีดีพีทั้งปีนี้ อาจติดลบร้อยละ 0.5-1 หลังเอกชนต้องแบกรับความเสี่ยง และต้นทุนการดูแลพนักงานภาคการผลิต หรือ มาตรการ Bubble and Seal เพื่อไม่ให้การผลิตหยุดชะงัก หรือ ซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบใน Supply Chain

เสนอรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจให้ทันไฮซีซั่น

กกร.จึงเสนอให้รัฐบาล จัดหาชุดตรวจคัดกรอง COVID-19 สนับสนุนค่าใช้จ่าย หรือ ลดหย่อนภาษีรายจ่าย จากการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้ง เร่งกระจายวัคซีนภาคการผลิตอย่างเร่งด่วน รวมทั้งขยายเพดานหนี้สาธารณะ จากร้อยละ 60 ของจีดีพี เป็นร้อยละ 70-80 ของจีดีพี ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 7 แสน ถึง 1.5 ล้านล้านบาท


นอกจากนี้ ยังช่วยรองรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เช่น ขยายวงเงินใช้จ่าย โครงการ “คนละครึ่ง” มาตรการ ลดหย่อนภาษี จากการใช้จ่าย มาตรการกระตุ้นการจ้างงาน มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ทันฤดูท่องเที่ยวปลายปี หรือ ไฮซีซั่น เพื่อเร่งฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภค

นอกจากนี้ กกร. ยังย้ำให้ บสย.ขยายวงเงินการค้ำประกันความเสี่ยงสินเชื่อ SMEs จากเดิมสูงสุดร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 70-100 เหมือนต่างประเทศ รวมทั้งผลักดันการลงทุน อุตสาหกรรมใหม่ หรือ New s-Curve และสร้างบรรยากาศการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจในปีหน้า ขยายตัวในระดับท้าทายที่ร้อยละ 6-8 จากประมาณการณ์เดิมของรัฐบาล ที่ร้อยละ 3-5

ย้ำเร่งฉีดวัคซีน 70% ของประชากรก่อนเปิดประเทศ

ขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถดำเนินมาตรการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยได้เป็นผลสำเร็จ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้รัฐบาล สามารถเปิดประเทศได้ตามเป้าหมาย 120 วันตามที่ประกาศ หรือ ในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ แต่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ สถานการณ์การแพร่ระบาดลดลง

นายสุพันธุ์ ย้ำว่า รัฐบาลไม่ควรประกาศล็อกดาวน์อีก เนื่องจากหากรัฐบาล กระจายวัคซีนได้ตามที่ประกาศไว้ อัตราการฉีดวัคซีนทั่วประเทศต้องได้ร้อยละ 70 ของประชากรแล้ว จึงไม่สมควรใช้มาตรการดังกล่าวอีกต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง