วันนี้ (1 ก.ย.2564) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงการปฏิรูปตำรวจ ที่ผ่านมา 7 ปียังไม่มีความคืบหน้า และพบการแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องต่าง ๆ ทั้ง การจับรถหรู การลักลอบข้ามแดน หรือ สถานบันเทิง ในวงการตำรวจ
รวมถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ยังพบว่า ยังมีระบบตั๋ว โดยพบว่ามี "ตั๋วเสี่ย ป." นายร้อยตำรวจรุ่น 47 และยังพบว่าส่วนใหญ่มักอ้างไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมาดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ชี้นายกฯเพิกเฉยตรวจสอบพรรคร่วม
นายจิรายุ ยังระบุให้ นายกฯตรวจสอบการทุจริตภายในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน กรมทรัพยากรน้ำบาดาลด้วย ซึ่งมีนายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการทุจริตในการเคหะแห่งชาติ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีดำเนินโครงการบ้านเช่าผู้มีรายได้น้อย บ้านเคหะสุขประชา ที่พบว่า นายกฯได้แต่งตั้งให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นคนจากพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกัน
นอกจากนี้ โครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประมูลได้และแจ้งว่าอยู่ในระหว่างกระบวนการศาล และแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความรอบคอบ และจากการสอบถามไปยังสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยได้แจ้งว่า กรณีล้มโครงการดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายราว 40,000 ล้านบาท เนื่องจากล่าช้าไป 1 ปีกว่า
รัฐบาลชุดนี้บอกว่าจะตรวจสอบทุจริต แค่ตรวจสอบแค่นี้นายกฯยังไม่ทำ และเรื่องขนาดใหญ่ระดับชาติประชาชนจะคาดหวังอะไรได้ นี่ขนาด ส.ส.ทักแล้วทักอีก แต่รัฐมนตรียังเพิกเฉย นายกฯก็ไม่สนใจ โผแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจก็ทำเหมือนเดิม
“จุติ" แจง นายกฯกำชับตรวจสอบทุจริต
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เพิกเฉยต่อการตรวจสอบการทุจริตของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งกรณีที่มีปัญหาเรื่องการจัดสรรที่อยู่อาศัยที่ไม่เป็นธรรม และไม่โปร่งใสของการเคหะแห่งชาติ นายกฯได้สั่งการไปยังการเคหะฯ ให้แก้ไขและกระทรวงฯได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายกฯยังสั่งการให้สร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชนทั่วประเทศ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ที่ตกงาน รายได้ลด ผ่อนบ้านไมได้ การเคหะฯได้รับนโยบายให้สร้างบ้านให้กับผู้มีรายได้น้อยอยู่ปีละ 20,000 หลัง
นายจุติ ยังกล่าวว่า หลังจากที่ตนเองเข้ามารับตำแหน่งพบว่า การเคหะแห่งชาติมีปัญหามาก และการจัดลำดับและความโปร่งใสรัฐวิสาหกิจ การเคหะแห่งชาติอยู่อันดับที่ 35 จาก 50 กว่าแห่ง และต่อมาได้แก้ไขอย่างจนได้รับการจัดอันดับมาอยู่ที่อันดับ 8 และมีคะแนนความโปร่งใสในการป้องกันทุจริตได้ 100 คะแนนเต็ม โดยทำทุกอย่างตามที่มีการตั้งข้อสังเกต และทำตามที่นายกฯได้สั่งการ
นายจุติยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาการเคหะแบกหนี้กว่า 20,000 ล้านบาท เนื่องจากมีปัญหาเรื่องทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และที่ดินที่ซื้อมา 90 แปลงไม่ก่อให้เกิดรายได้และนำมาปรับปรุงให้มีคุณค่ามากขึ้นและทำให้เป็นที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยโดยตั้งเป้าปีละ 20,000 ยูนิต
นอกจากนี้ ยังรับปากว่า เรื่องการทุจริตในการเคหะแห่งชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะไปตรวจสอบให้ครบและจะรายงานให้นายกฯทราบเป็นระยะ