วันนี้ (4 ก.ย.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการเตรียมกำลัง เพื่อควบคุมสถานการณ์กรณีที่จะมีการจัดกิจกรรมชุมนุมในวันนี้ มีทั้งหมด 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มเยาวชนปลดแอก" นัดหมายรวมตัวที่บริเวณ สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ และเคลื่อนขบวนไปกิจกรรมที่บริเวณหน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มอาชีวะ จะเดินทางไปจัดกิจกรรมที่บริเวณอาคารรัฐสภา และกลุ่มมวลชนที่ใช้ชื่อว่า "ทะลุแก๊ส" จะมารวมตัวกันที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
สำหรับการรวมตัวจัดกิจกรรมในพื้นที่ กทม.ยังเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากยังเป็นพื้นที่สีแดง และหากบุคคลใดมีพฤติกรรมความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 จะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ
เร่งติดตามผู้ก่อเหตุวางเพลิงหลายจุด
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามีการรวมกลุ่มกันที่บริเวณแยกดินแดง และทำลายทรัพย์สิน จุดไฟวางเพลิงหลายจุด ตำรวจกำลังสืบสวนติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และมวลชนอีกกลุ่ม คือกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้จัดกิจกรรมชุมนุม บริเวณแยกราชประสงค์อีกจุด พบว่ามีการปิดการจราจรและรวมตัวกัน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ขณะนี้ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีผู้กระทำผิด
โดยเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิด ได้ จำนวน 10 คน พบเป็นเยาวชน 2 คน ส่วนหนึ่งมีความผิดเป็นบุคคลผู้นำรถขยายเสียงมาบริเวณพื้นที่ชุมนุม ซึ่งตำรวจได้แจ้งประกาศเตือนแล้ว เจ้าหน้าที่ยึดได้เป็นหลักฐานได้ 3 คัน
คดีชุมนุม 176 คดี ผู้ต้องหา 660 คน
สรุปการดำเนินคดีช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค.2564 พบผู้กระทำผิด จำนวน 176 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 660 คน ดำเนินคดีแล้ว 403 คน หากกรณีเด็กเยาวชนที่มาร่วมกระทำผิด ผู้ปกครองอาจจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ฐานปล่อยปละละเลย หรือยินยอมให้ออกมาร่วมกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานด้านจราจร กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ให้ประชาชนเลี่ยงใช้เส้นทางบริเวณ ถ.ราชดำริ (แยกราชประสงค์ - แยกศาลาแดง) รวมทั้ง ถ.หลังสวน ถ.วิทยุ ถ.สารสิน ถ.พระราม 4 และ ถ.สีลม เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นจุดที่มวลชนจะเคลื่อนขบวน และทำกิจกรรมชุมนุม