วันนี้ (8 ก.ย.2564) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงผลประชุมพรรคการเมืองฝ่ายค้านถึงข้อสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่มีการสรุปจุดอ่อน-จุดแข็ง เพื่อวางยุทธศาสตร์การเดินหน้าต่อว่า พอใจภาพรวมผลการทำงานอภิปราย ซึ่งวัดจากความพึงพอใจประชาชนและเป้าหมายที่ฝ่ายค้านตั้งไว้ ยอมรับมีข้อบกพร่องเล็กน้อยการวางน้ำหนักบุคคลอภิปราย ส่วนคะแนนคาดไว้อยู่แล้ว ไม่มีรัฐบาลแพ้โหวตในสภา
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าการชี้แจงของรัฐมนตรียังไม่เคลียร์หลายประเด็น และเจตนาไม่ตอบ เจตนาหลีกเลี่ยง ยกกรณีส่วนต่างวัคซีนจัดซื้อซิโนแวค หรือการซื้อวัคซีนที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นการซื้อแบบจีทูจี และการประมูลชุดตรวจ ATK ก็ยังมีเงื่อนงำ รวมถึงการทุจริตยางพารา ที่รัฐมนตรีตอบเลี่ยงบาลี ไม่ตอบตรงๆ
เชิญผู้อภิปรายหารืออีกครั้ง สัปดาห์หน้า
จากการประชุมวันนี้ มีเรื่องจะดำเนินคดี 3-4 เรื่อง แต่จะเชิญผู้อภิปรายมาหารืออีกครั้งสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมยื่นร้องเอาผิดต่อองค์กรต่างๆ โดยจะยื่น 1.การจัดซื้อซิโนแวค 2 นายกรัฐมนตรีแทรงแซงกระบวนการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และกรณียางพาราพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินคดีต่อถึงที่สุด และเรื่องการทุจริตในกองทัพที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อภิปรายไว้
นายสุทิน กล่าวอีกว่า เรื่องใหญ่ที่สุด คือเหตุการณ์บนชั้น 3 ที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เพื่อไทย แจ้งว่ามีการแจกเงินให้ผู้สมัครเพื่อโหวตสนับสนุน ซึ่งมีหลักฐานหลายอย่างที่เชื่อว่าจะดำเนินการเอาผิดได้ โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นคลิป และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ และบุคคลที่ได้รับการทาบทามทั้งรับและปฏิเสธรับเงิน ที่จะยื่นต่อคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาฯ ก่อน คู่ขนานการสอบกับคณะกรรมการที่ "ชวน หลีกภัย" ตั้งไว้
จ่อยื่น ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญ ต้น ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะตามติดอย่างที่สุด และข้อมูลที่มีอยู่มั่นใจว่าจะยื่นร้องต่อคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายต่อรัฐสภา จะตามถึงที่สุดให้ผู้กระทำผิดถูกลงโทษดำเนินคดี และในต้นเดือน ต.ค.นี้ จะไปยื่นองค์กรต่างๆ ทั้ง ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีที่สถานทูตจีนทักท้วงการด้อยค่าวัคซีนซิโนแวคนั้น นายสุทิน ระบุว่า ไม่ต้องประสานความเข้าใจกับสถานทูต เพราะการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นการอ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอ้างองค์กรที่น่าเชื่อถือที่แพทย์ทำการวิจัยออกมา
คาดเดายาก ปมโหวตวาระ 3 แก้รัฐธรรมนูญ
นายสุทิน กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญชี้ว่าจะรู้ในนาทีสุดท้ายก่อนโหวตวันที่ 10 ก.ย.นี้ โดยประเมินว่ายังเกิดความสับสนของฝ่ายการเมือง ความเป็นไปได้ 50:50 โดยเฉพาะกลุ่มที่ชี้ขาด คือ ส.ว.ที่ต้องแลกเปลี่ยนความเห็นกันนาทีสุดท้าย ยอมรับเดาใจยาก
สำหรับกรณีที่ถูกคว่ำระบบเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้น ไม่ได้วิตกว่าจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ มั่นใจเพื่อไทยชนะ และเป็น 2 ใบ เพื่อไทยก็ชนะเช่นกัน แต่เชื่อว่าบัตร 2 ใบ จะสามารถทำให้การเมืองราบรื่น ระบบน่าเชื่อของในมุมต่างชาติ และแสดงเจตนาของประชาชนให้ยอมรับกระบวนการการเมือง
ส่วนข้อสังเกตของพรรคก้าวไกลว่าหากเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคใหญ่จะกินรวบทางการเมืองอีกครั้ง จะต้องคำนึงระบบใหญ่ของประชาธิปไตย ซึ่งก็มีประเทศแม่แบบให้เห็น การมีพรรคใหญ่กินรวบไม่ใช่ปัญหา การมีพรรคใหญ่ได้คะแนนเยอะ ระบบถ่วงดุลตรวจสอบในสภาต่างหากที่สำคัญ และเห็นว่าพรรคเบี้ยหัวแตกต่างหาก ทำระบบประชาธิปไตยมีปัญหา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง