เหตุใด "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ จึงเลือกตัด "เส้นเลือดใหญ่" ในเวลานี้ ในวันที่ "ร.อ.ธรรมนัส" ถูกปลดพ้นตำแหน่ง รมช.
1.ปฐมเหตุ "รอยร้าว"
1 ก.ย. ท่ามกลางกระแสข่าวแกนนำ พปชร. เดินสายล็อบบี้ ส.ส. ไม่โหวตไว้วางใจ นายกฯ อีกนัยยะคือการโหวตล้มนายกฯ จากข่าวลือกลายเป็นข่าวจริง เมื่อนายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา หลังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมานาน โดยระบุช่วงหนึ่งว่าหากมีคนทำเรื่องนี้จริง "ผมถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ"
ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส แถลงข่าวปฏิเสธไม่ใช่แกนนำพลังประชารัฐ(พปชร.) ในขบวนการล้มนายกฯ แต่ตำหนิไปที่ "ไอ้ห้อย-ไอ้โหน" ซึ่งปล่อยข่าวทำให้นายกฯเข้าใจผิด
2 ก.ย. ร.อ.ธรรมนัส เผยว่ายังไม่ได้คุยกับ นายกฯ "ผมยืนยันว่าผมไม่คุยกับนายกฯ แต่ผมคุยกับรองนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าพรรคผม" ซึ่งถูกตีความว่า ร.อ.ธรรมนัส เมินนายกฯ และเลือกคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. เท่านั้น
ผมยืนยันว่าผมไม่คุยกับนายกฯ แต่ผมคุยกับรองนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าพรรคผม
ขณะที่ นายกฯ ระบุตรงกันว่าไม่คุย ร.อ.ธรรมนัส และระบุสั้นๆ ว่า "เขาคุยกับพี่ป้อม"
3 ก.ย. พล.อ.ประวิตร เข้าสภาฯ สั่ง ส.ส.พปชร. โหวตให้รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกทุกคนเท่ากันที่ 119 เสียง ซึ่งต่อมามีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อ เคลียร์ใจกับ ร.อ.ธรรมนัส
รายงานข่าวระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส ยกมือไหว้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ และกล่าวว่า "ถ้าทำอะไรให้ท่านไม่สบายใจ ผมขอโทษ"
ด้าน นายกฯ โชว์ความเหนียวแน่นของ "3 ป." โดยสวมกอด พล.อ.ประวิตร และระบุว่า "ถ้า 3 คน อยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าไปก็ต้องไปด้วยกัน"
นายกฯ ยังกระเซ้า พล.อ.ประวิตร ว่า "ท่านอยากเป็นนายกฯ หรือ ?" พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "จะบ้าหรือ กูไม่เป็นหรอก มึงเป็นนั่นแหละ"
7 ก.ย. การประชุม ครม. นัดแรกในรอบ 2 เดือน นายกฯ สั่งรัฐมนตรีทั้ง 35 คน ประชุมเต็มคณะ มีรายงานว่านายกฯ เมิน ร.อ.ธรรมนัส เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่แม้จะรับไหว้และจับไม้จับมือ แต่ไม่สบตา ร.อ.ธรรมนัส หลังมีกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส หวังขึ้นเป็น "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย"
2.จุดแตกหัก "ร.อ.ธรรมนัส" ไม่กลับไปเหยียบ พปชร.
9 ก.ย. ร.อ.ธรรมนัส แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภาฯ ลาออกจาก "รมช.เกษตรฯ" ช่วงหนึ่งตอบคำถามนักข่าว กรณี ร.อ.ธรรมนัส ลาออกเมื่อถึงคราวเลือกตั้ง พรรคไม่แตกเลยหรือ ?
ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า "ก็ไม่แน่ เพราะใจผมไปแล้ว ผมพูดแล้วนักเลงพอ ทำอะไรแล้วต้องรับผิดชอบ อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้ใจมันอยู่ ถ้าใจมันไม่อยู่ ใครจะมาบังคับไม่ได้"
ผมพูดแล้วนักเลงพอ อยู่ที่ไหนก็ได้ขอให้ใจมันอยู่ ถ้าใจมันไม่อยู่ ใครจะมาบังคับไม่ได้
ร.อ.ธรรมนัส เผยว่าตั้งใจลาออกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วก่อนการโหวตไม่ไว้วางใจ แต่ พล.อ.ประวิตร ห้ามไว้ ซึ่งเมื่อกลับไปไตร่ตรองพบว่าชีวิตยังอีกไกลจึงตัดสินใจ "ลาออก" โดยเขียนหนังสือลาออกตั้งแต่ 8 ก.ย. แต่ทีมงานเข้าใจผิดจึงไม่ได้ยื่น ขณะที่ "ใบลาออก" มีการเขียนและวางตำแหน่งผิดหลายจุด ถูกวิจารณ์ว่าเขียนขึ้นอย่างเร่งรีบ
ไม่ถึง 1 ชม. ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ซึ่งเป็น 2 รัฐมนตรีใน "กลุ่ม 4 ช." เท่ากับว่า นายกฯ ได้เซ็นคำสั่งนี้ก่อนหน้านี้แล้ว
ต่อมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัส-นฤมล พ้นตำแหน่งเพราะถูก "ปลด" จากคำสั่งนายกฯ ไม่ใช่การยื่นหนังสือลาออก
ไม่แปลกถ้า ร.อ.ธรรมนัส จะพูดว่า "ไม่ไปเหยียบตรงนั้น (พลังประชารัฐ) ไม่ชอบ ไม่อยากฝืนใจตัวเอง"
3. เส้นทาง "ร.อ.ธรรมนัส" มือประสานสู่ "ขุนศึก"
-ปี 2562 ย้ายจากพรรคเพื่อไทยสังกัดพลังประชารัฐ โดยเป็นแกนนำ ส.ส.ภาคเหนือ ชนะการเลือกตั้ง 2 ใน 3 เขตเลือกตั้ง จ.พะเยา ตีพรรคเพื่อไทยแตก
-ก.ค.2562 ร.อ.ธรรมนัส ฉายา "มือประสานสิบทิศ" ช่วงฟอร์มรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส ปรากฏตัวที่พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนมีมติร่วมรัฐบาล และได้ตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวง "เกรด A+" ทั้ง รมว.พาณิชย์ ,รมว.เกษตรฯ ,รมช.มหาดไทย และรมช.สาธารณสุข
-ก.ย.2562 ร.อ.ธรรมนัส ได้รับมอบหมายให้ประสาน 10 พรรคเล็ก และต่อมามีการต่อรองตำแหน่งเกิดขึ้น ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส เปรียบเทียบตัวเองเป็นคนเลี้ยงลิงต้อง "แจกกล้วย" เพื่อให้ลิงสงบ ภายหลังคำว่า "แจกกล้วย" มักถูกใช้ในเชิงลบ หมายถึงการให้ผลประโยชน์กับ ส.ส.
-ธ.ค.2562 เลือกตั้งซ่อม จ.ขอนแก่น ร.อ.ธรรมนัส อยู่เบื้องหลังแกนนำ ส.ส.อีสาน ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ตีพรรคเพื่อไทยใน จ.ขอนแก่นแตก ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ในดินแดนที่เป็นเมืองหลวงพรรคเพื่อไทย
-มี.ค.2564 เลือกตั้งซ่อม จ.นครศรีธรรมราช ร.อ.ธรรมนัส หักพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผู้สมัคร ส.ส.และเอาชนะการเลือกตั้งอย่างสูสี
-เม.ย.2564 นายกฯ จัดพื้นที่รับผิดชอบให้กับ รมต.ใหม่ โดย ร.อ.ธรรมนัส คุมพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ สงขลา นครศรีฯ ภูเก็ต ฯลฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของ "ประชาธิปัตย์" ที่มี นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหน.ประชาธิปัตย์ เป็นผู้รับผิดชอบอยู่ก่อนหน้า
-มิ.ย.2564 ขึ้นเป็น "เลขาธิการ พปชร." แทนนายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร
4."มันเป็นแป้ง" ชนักติดหลังตลอดรัฐบาลนี้
ทันทีที่ ร.อ.ธรรมนัส ได้เป็น รมช.เกษตรฯ ถูกสื่อออสเตรเลียตีแผ่คำพิพากษาศาลออสเตรเลีย ระบุ ร.อ.ธรรมนัส เคยถูกดำเนินคดียาเสพติด กรณีนำเฮโรอีนเข้าออสเตรเลีย
ประเด็นนี้ถูกฝ่ายค้านนำไปซักฟอกในสภาฯ 2 ครั้ง โดยเดือน ก.พ.2563 ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่ากรณีที่เจ้าหน้าที่จับกุมและอ้างว่าวัตถุที่นำเข้าเป็นเฮโรอีนนั้นแท้จริง "มันเป็นแป้ง"
สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ รัฐนิวเซาท์เวลส์อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมนั้น มันคือแป้ง
กรณีนี้ฝ่ายค้านส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมลักษณะต้องห้าม เพราะเคยถูกดำเนินคดียาเสพติด ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง โดยให้เหตุผล คือ 1.กระทรวงต่างประเทศไม่สามารถติดตามคำพิพากษาที่รับรองถูกต้องอย่างเป็นทางการได้ และ 2.ยกเหตุผลเรื่อง "อำนาจอธิปไตย" มีความเด็ดขาดสมบูรณ์-ไม่อยู่ใต้อาณัติหรืออยู่ภายใต้รัฐอื่น
"หลักการปกครองของประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์มีหลักการสำคัญคือ ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และไม่ถูกประเทศอื่นแทรกแซงกิจการภายในของตนโดยไม่มีการทำข้อตกลงยินยอม"
"ดังนั้นการบังคับตามคำพิพากษาของศาลต่างประเทศก็ดี การตีความให้คำพิพากษาของต่างประเทศมีสถานะที่ทางกฎหมายเช่นเดียวกับศาลไทย จึงไม่สอดคล้องกับหลักดังกล่าว" คำพิพาษาบางส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ"