"หล่มสัก" น้ำล้นตลิ่งสูง 1 เมตร "นายกรัฐมนตรี" สั่งรับพายุโกนเซิน

วันนี้ (11 ก.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วทุกพื้นที่ของไทยมีฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายจังหวัด ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าปริมาณฝนตกสะสมมากสุด 24 ชั่วโมงย้อนหลังมากสุดที่บ้านคลองทรายขาว อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 194 มม. สถานีบ่อบำบัดทม.พิจิตร จ.พิจิตร 192 มม. สถานีบ้านซำม่วง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 134 มม.สถานีบ้านซับชมพู อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ 99 มม.

ขณะที่ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าขณะนี้อุทกภัยรวม 21 จังหวัด 54 อำเภอ 92 ตำบล 209 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 1,256 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย บางจังหวัดยังมีน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือ

ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี สถานการณ์น้ำท่วมชุมชนตลาดเก่า​ เทศบาลตำบลกบินทร์​ ปราจีนบุรี น้ำท่วมถนน 75 ซม.​ระยะทาง 400​ เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น มีประชาชนได้รับผลกระทบ 130​ ครัวเรือน ทางปภ.ร่วมกับจังหวัดท้องถิ่น หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มูลนิธิสัจจพุทธธรรม ลงพื้นที่ช่วยเหลือ 

 

หล่มสักน้ำสูง 1 เมตร 

ขณะที่เขตเทศบาลเมืองหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ภาพจากมุมสูงพบว่าสภาพบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนักมาหลายวัน จนแม่น้ำป่าสัก ได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมหลายชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยบางจุดถูกน้ำท่วมสูงถึงเกือบ 1 เมตร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ถนนบางแห่งถูกตัดขาด  

นายกิตติ พั้วช่วย นายกเทศมนตรีเมืองหล่มสัก สั่งการเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมเร่งสูบน้ำเพื่อระบายน้ำให้ประชาชนใช้เส้นทางสัญจรได้สะดวก

 

นายสำเร็จ ภูแสนศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า กรมอุทยานฯ จัดส่งเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในแม่น้ำพองล้นตลิ่ง ในท้องที่บ้านน้ำพอง หมู่ที่ 12 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย หลังจากน้ำป่าบนยอดภูกระดึงไหลลงมา มีปริมาณน้ำฝนสะสม 192.8 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำ ลำห้วยหลายสายเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

กรมชลฯ จับตาสถานการณ์น้ำจากพายุโกนเซิน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าววาส ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศพายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง บริเวณตอนเหนือของเมืองดานัง ช่วงวันที่ 13 ก.ย.นี้

ในขณะที่มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้จึงส่งผลทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น 

กรมชลฯ กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่ง จัดเจ้าหน้าที่ประจำยังจุดเสี่ยง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเร่งติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้ในพื้นที่เสี่ยงแล้ว และพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตาพายุ "โกนเซิน-จันทู" ส่งผลไทยฝนตกหนัก-ชี้ร่องมรสุมยังแช่อีก 2 วัน

กรมอุตุฯ เตือนฉบับ 4 พายุ “โกนเซิน” กระทบไทยฝนตกหนักบางแห่ง