วันนี้ (11 ก.ย.2564) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร กำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ผ่านคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ปริมาณน้ำที่พุ่งแรงทำให้เห็นว่าน้ำที่ท่วมขังใน อ.บางบ่อ ยังมีมาก สำนักชลประทานที่ 11 ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กรวม 80 เครื่อง เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล 2 จุด ปัจจุบันได้เดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลังเกือบทุกตัวตลอด 24 ชั่วโมง
ปริมาณน้ำที่ลดลงอย่างช้า ๆ ก็ทำให้หลายพื้นที่ใน อ.บางบ่อ น้ำก็ยังคงท่วมขังชุมชุมอยู่ระดับ 30-40 เซนติเมตร เช่นที่วัดบางบ่อ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ และ หน่วยรักษาความปลอดภัย กองทัพเรือ ได้มีการเร่งนำกระสอบทรายมากั้นบริเวณคลองสำโรง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อเข้าท่วม พร้อมกับเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำสูบออกจากวัด
ส่วนโรงเรียนที่อยู่ติดกับคลองสำโรง เช่นโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม ระดับน้ำยังท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำสูงถึง 1.50 เมตร พอระดับน้ำลดลงช้าก็ทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสังเกต ถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
สำหรับสาเหตุที่การระบายน้ำทำได้ล่าช้าชลประทานชี้แจงเพื่อให้ชาวบ้านคลายความสงสัยว่าเกิดจากการที่ปัจจัยน้ำทะเลหนุนสูง และยังมีร่องฝนตกในพื้นที่ของสมุทรปราการเป็นน้ำที่มาจากฝนตกหนัก 200 มิลลิเมตร ไม่ใช่น้ำที่มาจากน้ำเหนือ
ขณะที่ทีมข่าวยังได้รับการร้องเรียนปัญหาปลิงที่กำลังระบาดหนักในชุมชุมตามริมคลอง เช่น ชาวบ้านชุมชนสายสัมพันธ์ ที่ต้องอพยพไปอาศัยบ้านญาติ ทรัพย์สินเสียหายแล้วยังถูกปลิงกัดอีกด้วย ซึ่งมีทั้งปลิงขนาดเล็กหรือปลิงเข็ม และปลิงขนาดใหญ่หรือปลิงควาย ซึ่งหลายคนก็กังวลว่าหากถูกกัดอาจจะทำให้แผลและอาจติดเชื้อจากน้ำที่ท่วมขังได้