วันนี้ (14 ก.ย.2564) ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายสุทิน คลังแสง, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ น.ส.จิราพร สินธุไพร ร่วมเสวนาหัวข้อ "จนมุมกลางสภา...แล้วยังกล้าไปต่ออีกหรือ" ซึ่งเป็นการนำเนื้อหาและประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาพูดคุยอีกครั้ง
ทั้งประเด็นเรื่องการรับมือและควบคุมการระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะข้อสังเกตเงินทอนการซื้อวัคซีนของรัฐบาล การจัดซื้อชุดตรวจ ATK ที่ฝ่ายค้านเชื่อว่ากระบวนการจะไปต่อที่ศาล โดยเชื่อมั่นว่าการสื่อสารที่ล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีจะเป็นเหตุให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าการอภิปรายรัฐบาลครั้งนี้ ฝ่ายค้านสามารถจับความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลได้ ตอบไม่ตรงคำถาม พร้อมชี้ว่าฝ่ายค้านได้ของแถมจากการอภิปราย ปมข้อซักถามเรื่องการแจกเงิน ส.ส.กลางสภาฯ เป็นการทำลายสถาบันการเมือง
ส่วนภาพรวมข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านเชื่อว่าแม้จะล้มรัฐมนตรีในสภาฯ ไม่ได้ทันที แต่เชื่อว่าด้วยข้อมูลที่ไม่ชอบมาพากลที่เปิดเผยกลางสภาฯ จะส่งผลสืบเนื่องในภายหลัง
และยังวิเคราะห์ด้วยว่านายกรัฐมนตรีใช้หลักคิดและบริหารทางทหาร มาใช้กับการเมือง เช่น เมื่อรู้ใครคิดไม่ซื่อให้ฆ่าทิ้ง อย่างที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ และกำลังเกิดแรงกระเพื่อม-วิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาล ยังคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อรัฐบาลอีกครั้ง หรือการสะดุดขาตัวเองล้มลง
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งในวงเสวนา ทักท้วงการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน หวังให้นายกรัฐมนตรีปรับผู้ถูกอภิปรายออก แต่กลับปรับคนที่ไม่ได้ถูกอภิปรายออก
ขณะที่ นพ.ชลน่าน เชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เรื่องระบบเลือกตั้งจะบังคับใช้ช่วงเดือน ต.ค.2564 และเมื่อเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในเดือน พ.ย. หากรัฐบาลเสนอ พ.ร.ก.กู้เงิน อาจเป็นฉนวนเหตุปัญหาทางการเมือง ก่อนนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจยุบสภาและเลือกตั้งใหม่หลังจากนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง