พบ "ขยะพิษลพบุรี" เป็นกลุ่มสารก่อมะเร็ง-ห่วงปนเปื้อนใต้ดิน

กรมควบคุมมลพิษ เร่งแกะรอยตีวงกลุ่มผู้ลักลอบทิ้งสารเคมีอันตราย บ้านดีลัง จ.ลพบุรี พบเป็นกลุ่มสารก่อมะเร็ง เร่งกำจัดกลิ่นเหม็นและติดป้ายห้ามเข้าใกล้ นักวิชาการ แนะนำเร่งเคลื่อนย้ายไปกำจัดห่วงปนเปื้อนในน้ำใต้ดิน ระบุกรมโรงงานใช้อำนาจตามกฎหมายได้ทันที

ความคืบหน้ากรณีการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมที่ต.บ้านดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ซึ่งพบมีกลิ่นเหม็นกระทบกับเกษตรกร และชาวบ้าน รวมทั้งปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (20 ก.ย.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า จากการตรวจสอบพื้นที่พบถังบรรจุกากของเสียและร่องรอยการเปิดฝาถังและบีบอัดเพื่อนำไปจำหน่าย โดยเป็นถังเหล็กขนาด 200 ลิตร 360 ถัง และถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร 40 ถัง รวมปริมาตรของเสียประมาณ 80,000 ลิตร

นอกจากนี้ยังพบฉลากแสดงข้อมูลบ่งชี้ชนิดของสารเคมีต่างๆ เช่น โทลูอีน ,เมทิลเอทิลคีโตน,บิวทิล อะซิเตท และสี ซึ่งบ่งชี้เป็นอันตรายมีพิษกัดกร่อน และไวไฟ ซึ่งสอดคล้องกับจากการสุ่มเก็บตัวอย่างกากของเสีย 7 ตัวอย่าง พบว่า มีค่า pH ระหว่าง 7-13 ค่าไอระเหยสารอินทรีย์ระเหยง่าย ระหว่าง 0-838 ppm ทั้งนี้ สันนิษฐานได้ว่าของเสียดังกล่าวเป็นของเสียจากการประกอบกิจการโรงงาน อาทิ ตัวทำละลาย สี กาว

จากเบาะแสของฉลากถังที่นำมาทิ้ง จะทำให้การตีวงกลุ่มที่รับกำจัดผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้ในวงจำกัดขึ้น ซึ่งขอให้เป็นการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนก่อน ยังไม่อยากชี้ชัดว่ามาจากที่ไหน

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ในช่วง 1-2 วันนี้เร่งประสานให้ทุกหน่วยงานที่เข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้เร่งรัดทำตามกฎหมายทั้ง 5 ฉบับที่รับปากจะดำเนินการหาผู้ที่ลักลอบนำของเสียมาทิ้ง เบื้องต้นทางท้องถิ่นเข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของที่ดิน ที่ให้นำของเสียอันตรายมาทิ้งในที่ดินของตัวเองแล้ว รวมทั้งต้องการสืบสวนสอบสวนทางคดีเพื่อหาต้นทางบริษัท

ประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรม ช่วยตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสารอันตรายว่ามีการรายงานแจ้งการเคลื่อนย้ายในบัญชีหรือไม่ เพราะตอนนี้มีการแจ้งเบาะแสรถยนต์ที่นำมาทิ้งแล้ว

อ่านข่าวเพิ่ม แกะรอยเอกชนลอบทิ้งถังสารเคมีอันตราย 300 ถัง

เร่งคลุมถังแก้ปัญหากลิ่น-วางแนวทางฟื้นฟู

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า สำหรับการแจ้งเอาผิดเจ้าของที่ดิน ทราบว่าพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกให้มา รับทราบในข้อกล่าวหาที่ปล่อยให้มีการนำของเสียมาทิ้งในพื้นที่ รวมทั้งจะเชิญพยานที่รู้เห็นมาให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว

ส่วนการจัดการของเสียที่ถูกทิ้ง ได้มีการส่งนักวิชาการคพ.ร่วมกับกรมโรงงาน เข้าไปแนะนำท้องถิ่น เบื้องต้นจะต้องลดกลิ่นเหม็นจากสารเคมี กำจัดกลิ่นเบื้องต้น และนำผ้าหรืออุปกรณ์มาคลุมไว้ รวมทั้งทำป้ายติดตั้งห้ามเข้าในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต

ตอนนี้ผลตรวจสอบวิเคราะห์สารที่เก็บมาตรวจทางแล็บจะได้ผลภายใน 2 สัปดาห์นี้ ส่วนน้ำใต้ดิน ประสานทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มาตรวจการปนเปื้อนแล้วบ่อน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงและในพื้นที่ของชาวบ้านอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่

แนะเร่งขนย้ายหากของเสียออกจากพื้นที่

นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า จากข้อมูลที่คพ.รายงานกากของเสียที่บ้านดีลัง จ.ลพบุรี เป็นกลุ่มสารก่อมะเร็ง ดังนั้นคำแนะนำคือกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต้องเร่งเคลื่อนย้ายนำไปกำจัดก่อน เพราะหากปล่อยไว้สารเคมีที่ไหลเปรอะเปื้อนจะยิ่งปนในในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สิ่งที่น่าห่วงคือตากแดด ตากฝนมาแล้ว 20 วัน ช่วงนี้ฝนตกหนักด้วยน่าเป็นห่วงว่าน้ำของเสียลงไปปนเปื้อนกับชั้นน้ำใต้ดินและน้ำผิวดิน เป็นอันตรายจะฟื้นฟูยาก

นายสนธิ กล่าวว่า ตอนนนี้ยังหาคนผิดไม่ได้ แต่กรมโรงงานสามารถใช้อำนาจสั่งให้เคลื่อนย้ายสารออกไปกำจัดก่อน และถ้ามีการสาวถึงบริษัทหรือผู้ที่ว่าจ้างแอบนำมาทิ้ง ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายการขนย้ายและฟื้นฟูพื้นที่ได้