รวบแล้ว! มือดีตัดสายเคเบิลรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

อาชญากรรม
25 ก.ย. 64
19:11
2,858
Logo Thai PBS
รวบแล้ว! มือดีตัดสายเคเบิลรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุลักลอบตัดสายเคเบิลรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ขณะที่ผู้ว่าการรถไฟฯ สั่งเร่งขยายผลการจับกุม พร้อมดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาถึงที่สุด

ตามที่ได้มีข่าวการลักลอบตัดสายอาณัติสัญญาณปฏิบัติการเดินรถ หรือสายเคเบิลของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยปัจจุบันได้มีการลักลอบตัดไปแล้ว 9 จุด


ล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ เปิดเผยว่า หลังมอบหมายให้นายสถานีรถไฟรังสิต แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์นั้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 คน คือนายอรรณพ อายุ 31 ปี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลการจับกุมเพิ่มเติม เบื้องต้นได้รับแจ้งมีการก่อเหตุลักสายเคเบิลทั้งสิ้น 8 จุด ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน 

นอกจากนี้ ทางผู้บังคับการตำรวจรถไฟ และฝ่ายสืบสวน ได้มีคำสั่งแต่งตั้งชุดสืบสวนเพื่อติดตามคนร้ายและทรัพย์สินของการรถไฟฯ เป็นการเฉพาะ จัดชุดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน และสุ่มตรวจในพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเร่งซ่อมแซมรั้ว
ที่ได้รับความเสียหายและเสริมแนวรั้วป้องกันเพิ่มเติมในจุดเสี่ยง รวมถึงติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมด้วย


นายนิรุฒ ระบุอีกว่า ได้สั่งการให้ติดตามดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างถึงที่สุด ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย นอกจากนี้จะดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อหาบุกรุกพื้นที่การรถไฟฯ และก่อกวนให้เป็นอุปสรรคการเดินรถ รวมถึงการก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินทางราชการ

เปิดโทษกฎหมายรถไฟ - อาญาทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ พ.ร.บ.จัดวางทางรถไฟแลทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา 84 ได้ระบุผู้ใดที่เข้าไปในที่ดินรถไฟนอกเขตที่อนุญาตให้ประชาชนเข้าออก ถือมีความผิดฐานลหุโทษ ต้องระวางโทษชั้น 1 และมาตรา 87 ระบุไว้ว่า ผู้ใดทำให้รถ สิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรหรือสิ่งใด ๆ อันเป็นทรัพย์สินของรถไฟเสียหายหรือชำรุด มีความผิดฐานลหุโทษต้องระวางโทษชั้น 1

นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ระบุว่า ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์เขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ขณะเดียวกันยังเข้าข่ายคดีทำลายทรัพย์สินทางราชการ ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 231 ระบุว่าผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ประภาคาร ทุ่น สัญญาณ หรือสิ่งอื่นใดซึ่งจัดไว้เป็นสัญญาณเพื่อความปลอดภัยในการจราจรทางบก การเดินเรือ หรือการเดินอากาศ อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจรทางบกการเดินเรือ หรือการเดินอากาศ ตั้งระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 140,000 บาท

และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ผู้ใดลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท

การรถไฟฯ ชี้สายถูกตัดไม่กระทบเดินรถ

ด้านนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สายไฟที่ถูกตัดเป็นสายสัญญาณที่อยู่ข้างทางรถไฟ เนื่องจากทางรถไฟอยู่ในระดับผิวดินบางจุดอาจจะมีผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาได้ โดยเฉพาะช่วงบางบำหรุและตลิ่งชัน และช่วงรังสิตที่มีการตัดสายเคเบิลไปแล้วก่อนหน้านี้ เพราะข้างในสายไฟมีทองแดง


ขณะนี้การรถไฟฯ อยู่ระหว่างการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่เป็นรอยรั่ว เบื้องต้น ในส่วนการซ่อมแซมค่าสายเคเบิลอยู่ที่เส้นละ 20,000 -30,000 บาท และในแต่ละจุดเบื้องต้นความเสียหายอยู่กว่า 100,000 บาท


นายอนันต์ ยืนยันว่า แม้จะมีการตัดสายแต่จะไม่ส่งผลกระทบกับการให้บริการเดินรถ เพราะการเดินรถสามารถปรับให้เหมาะสมตามสภาวการณ์ต่าง ๆ ได้อยู่แล้ว แต่อาจจะส่งผลทำให้รถล่าช้ากว่าปกติเล็กน้อยเพราะไม่สามารถทำความเร็วได้

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง