ศบค.ขยายเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 30 พ.ย. - ลดเวลาเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม - ตี 4

สังคม
27 ก.ย. 64
14:20
19,391
Logo Thai PBS
ศบค.ขยายเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 30 พ.ย. - ลดเวลาเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม - ตี 4
ศบค.ขยายเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 2 เดือนจนถึงวันที่ 30 พ.ย.2564 ปรับลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 4 ทุ่ม ถึง ตี 4 ผู้เดินทางเข้าประเทศหากฉีดวัคซีนครบลดวันกักตัว

วันนี้ (27 ก.ย.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์ COVID-19 ประจำวัน ระบุ ภาพรวมติดเชื้อกรุงเทพฯและปริมณฑลแนวโน้มลดลง แต่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความน่าเป็นห่วง

 

ขณะที่จากการใช้มาตรการล็อกดาวน์และมาตรการต่อเนื่อง โดยสถานการณ์จริงการติดเชื้อแนวโน้มต่ำกว่าการคาดการณ์ และยังคงมาตรการต่าง ๆตามเดิมเพื่อคุมตัวเลขการแพร่ระบาด รวมถึงการเสียชีวิตที่ขณะนี้ต่ำกว่าการคาดการณ์

ขยายใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 30 พ.ย.64

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.พิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 30 พ.ย.2564 ทั้งนี้เพื่อการเตรียมพร้อมในการส่งต่อการใช้ พ.ร.ก.โรคติดต่อเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านของหน่วยงานที่จะรับหน้าที่ต่อจาก ศบค. ศูนย์บูณาการกรุงเทพฯและปริมณฑล และ และจังหวัดต่าง ๆ ที่ต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ควบคุมโรค ซึ่งทางฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายปกครอง และฝ่ายสาธารณสุขอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันอยู่จึงทำให้ต้องขยายระยะเวลาต่อไปอีกประมาณ 2 เดือน

นอกจากนี้ ยังปรับมาตรการฯกิจการที่ปิดตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ศบค.ปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการ/กิจกรรม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 1.กรณีการห้ามออกนอกเคหสถาน จากเดิม 21.00 - 04.00 น. เป็น 22.00 - 04.00 น. เริ่ม 1 ต.ค.2564 ศูนย์การค้าเปิดบริการได้ถึง 21.00 น.ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ถึง 21.00 น.


กีฬากลางแจ้ง เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬา ไม่เกิน 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมตามขนาดสถานที่และประเภทกีฬา, กีฬากลางแจ้งจัดการแข่งขันได้ ผู้ชมไม่เกินร้อยละ 25 ของความจุด ผู้ชมต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ มีATK/RT/PCR ผลเป็นลบ ภายใน 71 ชม. และ กีฬาในร่มจัดการแข่งขันโดยไม่มีผู้ชม

นพ.ทวีศิลป์ แถลงสถานการณ์ COVID-19 ประจำวัน ขณะที่ ภาพรวมติดเชื้อกรุงเทพปริมณฑลแนวโน้มลดลง แต่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความน่าเป็นห่วง ขณะที่มาตรการควบคุมการแพร่ระบายยังคงเดิมเพื่อคุมตัวเลขการแพร่ระบาดและเสียชีวิตที่ขณะนี้ต่ำกว่าการคาดการณ์

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.พิจารณาขยายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 30 พ.ย.2564 และปรับมาตรการฯกิจการที่ปิดตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่

1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และวัยก่อนเรียน ผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.

ขณะที่ 2.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดเอกชน ห้องสมุดชุมชน ,3.พิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน 4.ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หอศิลป์ ให้เปิดได้แต่จำกัดจำนวน 1 คน ต่อ 4 ตร.ม.หรือให้เข้าชมได้ไม่เกินร้อยละ 75 และสวมหน้ากากตลอดเวลา โดยกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยจะออกแนวปฏิบัติ

 

5.ร้านทำเล็บ เปิดได้แต่ต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า

6.ร้านสัก เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า และลูกค้าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือ มี ATK/ RT/PCR ผลเป็นลบ ภายใน 72 ชม.สามารถเปิดบริการที่ใช้น้ำเพื่อสุขภาพได้ ไม่ให้เปิดบริการการอบไอน้ำ

7.ร้านนวด สปา เพื่อสุขภาพ เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า จำกัดเวลาบริการ ไม่เกิน 2 ชม.ต่อคน

 

8.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึง 21.00 น.ลดจำนวนเหลือร้อยละ 50 นั่งที่เว้นที่ สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รับประทานอาหาร

9.การเล่นดนตรีในร้านอาหาร เปิดดำเนินการได้ จำกัดจำนวนนักดนตรีไม่เกิน 5 คน นักดนตรีสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นักร้องถอดหน้ากากอนามัยเฉพาะเวลาร้องเพลงหรือแสดง ห้ามสัมผัสคลุกคลีกันระหว่างนักร้อง นักดนตรีและลูกค้า

 

10.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ยังไม่เปิดดำเนินการ ให้มีการติดตามสถานการณ์ 2-4 สัปดาห์ เนื่องจากจะทำให้มีการเดินทางเข้าร่วมอบรมสัมมนาจากหลายพื้นที่ และมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก

มีการพูดคุยถึงการแสดงมหรสพ นายกฯให้ รมว.วัฒนธรรมไปทำรายละเอียดเพื่อกำหนดมาตรการเพื่อให้กำหนดกิจการกิจกรรมได้

เคอร์ฟิว 4 ทุ่ม - ตี 4 ห้างเปิดถึง 3 ทุ่ม


นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ เห็นชอบการปรับเงื่อนไขมาตรการป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ตั้งแต่ 1 ต.ค.2564 โดย ลดเวลาการห้ามออกจากเคหสถาน จากเดิม 21.00- 04.00 น. เป็นเวลา 22.00 - 04.00 น.เริ่มวันที่ 1 ต.ค.2564 และติดตามประเมินผลอย่างน้อย 15 วัน

 

 

ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ เปิดบริการได้ถึง 21.00 น.ให้สถาบันกวดวิชาเปิดได้ โดยต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหงัด/กทม.ให้เปิดโรงภาพยนต์ สปา ห้องออกกำลังกาย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ไดตามแนวทางที่กำหนด โดยยังไม่เปิดดำเนินการ ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ และห้องประชุม/จัดเลี้ยง กีฬากลางแจ้งหรือในร่มเป็นที่โล่ง กีฬากลางแจ้งมีผู้ชมได้ ร้อยละ 25

กีฬากลางแจ้ง เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬา ไม่เกิน 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมตามขนาดสถานที่และประเภทกีฬา, กีฬากลางแจ้งจัดการแข่งขันได้ ผู้ชมไม่เกินร้อยละ 25 ของความจุด ผู้ชมต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ มีATK/RT/PCR ผลเป็นลบ ภายใน 71 ชม. และ กีฬาในร่มจัดการแข่งขันโดยไม่มีผู้ชม

ลดเวลากักตัว

นอกจากนี้ ยังมีการปรับมาตรการผู้เดินทางเข้าในราชอาณาจักร โดยปรับลดระยะเวลาในการกักกัน หากผู้เดินทางมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน และมีเอกสารรับรอง จะมีระยะเวลากักตัวอย่างน้อย 7 วัน ตรวจหาเชื้อ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง

 

กรณีไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ เดินทางทางอากาศและทางน้ำ กักตัวอย่างน้อย 10 วัน ทางบก กักตัวอย่างน้อย 14 วัน ตรวจหาเชื้อ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง

ปรับมาตรการ สำหรับการทำกิจกรรม สำหรับ AQ ให้ออกกำลังกายกลางแจ้งได้ ,ว่ายน้ำได้ ,ปั่นจักรยาน ,การสั่งซ้อสินค้าจากภายนอกได้ และการประชุมสำหรับนักธุรกิจที่มาในระยะสั้น ปรับมาตรการ สำหรับการทำกิจกรรม สำหรับ SQ และ OQ ให้ออกกำลังกายกลางแจ้งได้และสั่งซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอกได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง