เริ่มวันนี้ฉีดวัคซีน นร. ลงทะเบียนฉีด 3.6 ล้านคน

สังคม
4 ต.ค. 64
09:50
7,209
Logo Thai PBS
เริ่มวันนี้ฉีดวัคซีน นร. ลงทะเบียนฉีด 3.6 ล้านคน
"นายกรัฐมนตรี" คิกออฟฉีดวัคซีนนักเรียนช่วงอายุ 12-17 ปี ย้ำวัคซีนมีเพียงพอตามเป้า 150-170 ล้านโดสในปีหน้า ล่าสุดพบว่า มีนักเรียนแสดงความประสงค์ฉีด 3.6 ล้านคน จากจำนวนกว่า 5 ล้านคนในทุกสังกัด คิดเป็นร้อยละ 71.67

วันนี้ (4 ก.ย.2564) 08.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธี Kick off สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม ณ โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ถ.ลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์แล้ว ยังมีโรงเรียนใน 12 เขตสุขภาพร่วม Kick off การฉีดวัคซีนวันนี้เป็นวันแรกพร้อมกันผ่านระบบซูม

 

นายกรัฐมนตรีทักทายเด็กนักเรียนที่นั่งรอเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การดูแลเด็ก เยาวชน ครู อาจารย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ซึ่งเป็นระบบการทำงานของประเทศไทย ที่ส่วนราชการ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ร่วมกันทำงาน ปรึกษาหารือกันเพื่อให้เกิดผลดีกับประเทศชาติบ้านเมือง รัฐบาลห่วงใยในทุกความเดือดร้อนของประชาชนและทุกสถานการณ์ ทั้งโควิด-19 อุทกภัย และเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวยินดีที่ได้เป็นประธานในงาน Kick off การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อเปิดเทอมอย่างปลอดภัย ในการเปิดภาคเรียนวันที่ 1 พ.ย.นี้ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะกระทบทั่วโลก แต่การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลจำเป็นต้องรักษาระบบการศึกษาไว้ให้ได้ พร้อมทั้งบริหารจัดการ ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนช่วงโควิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครูมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการปรับวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในช่วงที่เด็ก เยาวชนเรียนออนไลน์ที่บ้าน

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก เยาวชน ในวันนี้เป็นการส่งเสริมความพร้อมด้านการศึกษาให้เดินหน้าต่ออย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้ปกครองเมื่อต้องส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน โดยเป็นการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นวัคซีนที่สามารถใช้ในกลุ่มเด็กได้ และรัฐบาลจะเดินหน้าจัดหาวัคซีนชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเดินหน้าการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การเปิดภาคเรียนที่ 2 สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมยืนยันว่าในปีหน้าจะมีวัคซีนเพียงพอ รัฐบาลเตรียมแผนวัคซีน 150-170 ล้านโดส ให้ฉีดได้ครบถ้วนตามเป้าหมายไว้ และขอฝากให้เด็กนักเรียนได้มีจุดหมายในการเรียนหนังสือว่าจะเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร ขอให้รู้ว่าตนเองชอบสิ่งใด แล้วทำตามความฝัน ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะทุกคนคืออนาคตของชาติ

จากนั้นนายกรัฐมนตรีลั่นระฆังโรงเรียนพร้อมกับ 15 โรงเรียน ใน 12 เขตสุขภาพ และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ก่อนเดินพูดคุยให้กำลังใจนักเรียนและบุคลากร ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำสร้างความมั่นใจว่า การฉีดวัคซีนให้บุตรหลานเยาวชนในวันนี้มีความปลอดภัย ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้ครบทุกมิติ

นักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีน 3.6 ล้านคน

สำหรับแผนการฉีดโควิด-19 ของกระทรวงศึกษาธิการให้นักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี จะเริ่มในวันที่ 4 ต.ค. เป็นต้นไป เป็นวัคซีนไฟเซอร์ ตามหลักความสมัครใจที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เบื้องต้นมีนักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีน 3,600,000 คน คิดเป็นร้อยละ 71 จากทั้งหมดกว่า 5,000,000 คน จะเริ่มฉีดให้กับสถานศึกษาในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม 15,465 แห่ง ใน 29 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี

กระทรวงสาธารณสุข จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 2 ล้านโดสกระจายให้ทุกจังหวัด ไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดของการฉีด เนื่องจากอาจมีผู้ขอฉีดวัคซีนเพิ่ม

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ระบุว่า ข้อเสนอการฉีดวัคซีนในเด็กผู้ชายเพียงเข็มเดียวจะพิจารณาข้อมูลทางวิชาการ หากมีการปรับเปลี่ยนจะดำเนินการให้ทันก่อนฉีดเข็มที่ 2 ส่วนข้อกังวลเรื่องภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนั้น อัตราการเกิดต่ำมาก แต่หากมีอาการแน่นหน้าอก ใจสั่น หมดสติ ให้รีบมาพบแพทย์

โพลล์สะท้อนผู้ปกครองกังวลผลข้างเคียงวัคซีน

ประเด็นหนึ่งที่คงจะมีผลต่อการจะยอมให้เด็กๆฉีดมากขึ้น ก็คือ ความกังวลใจของผู้ปกครองเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ ล่าสุด มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต สำรวจความเห็นผู้ปกครอง 1,089 คน ในช่วง 27-30 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วย เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีน และพร้อมที่จะให้บุตรหลานฉีด แต่กังวลเรื่องอาการข้างเคียงมากที่สุด

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ชี้ว่า อาจเป็นเพราะข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่จะเกิดในเด็กที่ได้รับวัคซีนแล้ว ยังมีค่อนข้างน้อย และไทยเพิ่งจะเริ่มต้นฉีดในเด็กกลุ่มนี้

หลายจังหวัด พร้อมฉีดวัคซีนนักเรียน

ที่ จ.เพชรบูรณ์ เตรียมฉีดวัคซีนให้นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 ชาญวิทยาวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์นำร่องฉีดวัคซีนให้นักเรียนระดับ มัธยมศึกษาที่สมัครใจ 395 คน จากทั้งหมด 470 คน

ส่วน จ.พิษณุโลก จะฉีดวัคซีนที่โรงเรียนธีรธาดา พิษณุโลก จำนวน 97 คน จากนั้นจะทยอยฉีดให้โรงเรียนต่าง ๆ ไปจนถึงวันที่ 12 ต.ค. รวมทั้งหมดประมาณ 10,000 คน

สำหรับ จ.สงขลา มีนักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีน 90,000 คน จาก 1,000,000 คน นพ.ปพน ดีไชยเศรษฐ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ประเมินว่าหากนักเรียนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว จะเตรียมเปิดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เริ่ม 4 ต.ค. ฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" ให้นักเรียน 12-18 ปี

เปิดคำแนะนำ "ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์" ฉีดไฟเซอร์เด็ก 12 ปี

รู้จัก "ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ" หลังเด็กฉีดวัคซีน COVID-19

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง