เร่งสำรวจ "ต้นยางนา" ติดอุปกรณ์เตือนก่อนโค่นล้ม

ภูมิภาค
5 ต.ค. 64
12:01
2,505
Logo Thai PBS
เร่งสำรวจ "ต้นยางนา" ติดอุปกรณ์เตือนก่อนโค่นล้ม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีอุบัติเหตุต้นยางนา หัก โค่น ล้ม ลงมา ทับบ้านเรือนของชาวบ้าน แต่เหตุการณ์เมื่อบ่ายวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด มีต้นไม้ใหญ่โค่นล้มถึง 12 ต้น โดยเป็นต้นยางนาอายุกว่า 100 ปีจำนวน 10 ต้น ต้นสะเดา 1 ต้นต้นสน 1 ต้น

ถนนสาย 106 เชื่อม จ.เชียงใหม่ กับ จ.ลำพูน นับว่าเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ยาวนานมีต้นยางนา ตลอดความยาว 13 กิโลเมตร กว่า 900 ต้น

ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาคประชาชนอาสาสมัครพิทักษ์ยางนา นักวิชาการด้านต้นไม้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พยายามออกแบบและดูแลต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะต้นยางนา ตลอดแนวสองข้างถนนมาโดยตลอด

 

ระยะแรกใช้วิธีการสำรวจและทำเครื่องหมายสติกเกอร์สีติดไว้ที่ลำต้น เพื่อแสดงถึงสุขภาพของต้นยางนาโดยแบ่งออกเป็นสามสี คือ สีเเดงคือป่วยหนัก สีส้มเริ่มป่วย สีเขียวสมบูรณ์

ต่อมากลุ่มชาวบ้านอาสาสมัครพิทักษ์ยางนา ได้พอพิกัด และอัพภาพประกอบทำเป็นแผนที่ดิจิตอลลงใน C-Site เพื่อสื่อสารกับสังคมเป็นสุขภาพต้นยางนาตลอดสองข้างทางของถนน เพื่อเป็นระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการดูแลฟื้นฟูต้นยางนาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการตัดทอนกิ่ง การบำรุงรักษาราก

บรรจง สมบูรณ์ชัย นักวิชาการและนายกสมาคมขี้เหล็ก-ยางนา สยาม กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อมูลที่ได้จากการสำรวจประเมินสุขภาพยางนา พบว่า มีต้นยางนากว่า 200 ต้น จาก 900 ต้น กระจายในพื้นที่ 5 ตำบล ที่ต้องเร่งตัดเเต่งกิ่ง และรักษาะระบบราก แต่ในเฉพาะหน้า ที่ต้องทำเร่ง 30 ต้น ซึ่งมาจากข้อมูลที่ได้สำรวจและความต้องการจากความกังวลของชาวบ้านในพื้นที่ ขณะที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรออุปกรณ์ที่จัดซื้อจากต่างประเทศ

เครื่อง Tree radar scan

 

อุปกรณ์ช่วยในการสำรวจความเสียหายของต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นโพรงกลางต้นไม้ ความสมบูรณ์ของระบบราก ซึ่งจะช่วยในความแม่นยำ สำหรับการจัดการได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

ตอนนี้เรื่องแรกที่ต้องคำนึงถึง คือความปลอดภัยของชาวบ้านเป็นสำคัญที่จะต้องมีระบบการแจ้งเตือนเข้ามาร่วมด้วย

ขณะที่ซึ่งความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ที่อาศัยอยู่รอบต้นยางนา และผู้สัญจรไปมาบนถนนเส้นนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ทางวิทยาลัยเทคนิคสารภี และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทีมอาจารย์และนักศึกษา ร่วมกันคิดค้นนวัตกรรมท้องถิ่น “เครื่องแจ้งเตือนวาตภัยและอุทกภัยชุมชน” ขึ้น

โดยทดลองนำร่องติดตั้งขึ้นที่เทศบาลตำบลหนองผึ้ง อ.สารภี จำนวนสี่จุดกระจายทั้งตำบล โดยระบบการทำงานของเครื่องสามารถแจ้งเตือนทิศทางลมและความเร็วลม ซึ่งจะคำนวณและผ่านเซ็นเซอร์แจ้งเตือนไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลหนองผึ้งอำเภอสารภี

ศุภเกียรติ สุภสินธุ์ อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคสารภี ผู้พัฒนาระบบแจ้งเตือนเล่าว่า เหตุการณ์เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา มีกิ่งต้นอย่างนาหักลงมา สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนและผู้สัญจรบนถนนเส้นนี้ และตนเป็นผู้ใช้ถนนในการขับรถมาทำงานอยู่เป็นประจำ จึงคิดค้นระบบนี้ขึ้นมา

น่าจะช่วยในการแจ้งเตือน สำหรับผู้ที่ขับรถไปมารวมถึงประชาชนที่อยู่ตลอดแนวถนนได้ โดยระบบจะสามารถแจ้งเตือนได้ในระยะเวลาที่ความเร็วลม เกินค่าที่กำหนด และแจ้งเตือนประชาชนก่อนจะเกิดเหตุอันตรายอย่างน้อย 5 นาที

ในอนาคตระบบสามารถขยายการติดตั้งได้ตลอดแนวถนน และสามารถแจ้งเตือนประชาชนได้ทุกตำบล นอกจากระบบจะสามารถแจ้งเตือนวาตภัยได้แล้ว ยังสามารถเก็บระบบฐานข้อมูลทิศทางลม ความเร็วลม และนำมาทำแบบจำลองคาดการณ์วาตภัยหรือพายุได้ล่วงหน้า ร่วมกับอุตุนิยมวิทยา ในอนาคตสามารถแจ้งเตือนได้ล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง

ในช่วงวันที่เกิดเหตุที่ผ่านมา ระบบไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากขาดคนดูแลเรื่องของการจัดการสัญญาณ ต่อจากนี้หากมีหน่วยงานที่เห็นถึงความสำคัญ ที่จะช่วยในการต่อเชื่อมสัญญาณ ก็จะทำให้ในพื้นที่จะมีระบบการเตือนภัย ที่ไม่ใช่แค่เตือนเฉพาะลมพายุฝนเท่านั้น

ถนนต้นยางนา 13 กิโลเมตร ถูกประกาศเป็นพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ต้นยางนาและต้นขี้เหล็ก เป็นถนนที่มีคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ห้ามการกระทำหรือการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อต้นยางนา และต้นขี้เหล็ก

 

ในขณะที่ภารกิจเร่งด่วน ที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามงานคุ้มครองสิ่งเเวดล้อม ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งเเวดล้อม จ. เชียงใหม่ นอกจากการจัดการตัดทอนกิ่งต้นยางนา 30 ต้น ในวันที่ 7 ต.ค.แล้ว

แผนต่อจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ที่จะมีแผนระยะยาวสร้างระบบบำรุงรากเเขนง สร้างรากเทียม ที่จะช่วยโครงสร้างค้ำยันให้ต้นยางนา ขณะที่ต้นยางนาที่โค่นล้มไปนั้น จะมีการปลูกต้นยางนาทดแทน พร้อมกับการเปิดสภาพลเมืองหารือทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง