วันนี้ (7 ต.ค.2564) กรมชลประทาน รายงานสถานการรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ จ.สุโข ทัย นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง อุบลราชธานีพิษณุโลก ขอนแก่น ชัยนาท สุพรรณบุรี และอุทัยธานี ขณะที่สถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นตำแหน่งตรวจวัดน้ำก่อนเข้าสู่กทม. วันนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 3,069 ลบ.ม.ต่อวินาที จากเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ปริมาณน้ำ 3,104 ลบ.ม.ต่อวินาที
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่น้ำท่วม 9 อำเภอ ประกอบด้วย ผักไห่ เสนา บางบาล บางไทร พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน ท่าเรือ นครหลวง และบางปะหัน ปัจจุบันปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ C.2 จ.นครสวรรค์ 2,542 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน) รับน้ำเข้าฝั่งตะวันตกและตะวันออก 410 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน) จะมีผลต่อระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา
ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำเหนือเขื่อน +17.03 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน) ระบายน้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.13 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,698 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน) จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ทั้งนี้กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่
ผลกระทบเหนือเขื่อนพระราม 6
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมเหนือเขื่อนพระราม 6 โดยเฉพาะ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ซึ่งมีน้ำท่วมเกือบ 2 เมตร และขยายวงกว้าง กระทบหลายพื้นที่ทั้งตัวเมืองและชุมชน ทำให้ชาวบ้าน โซนท้ายแม่น้ำป่าสัก เหนือเขื่อนพระราม 6 และคลองระพีพัฒน์ เตรียมนัดรวมตัวกันเรียกร้องให้กรมชลประทาน ระบายน้ำออกจากเขื่อนให้มากขึ้น
ไทยพีบีเอส สำรวจพื้นที่ อ.บ้านหมอ ยังเผชิญน้ำท่วมพื้นที่จากปริมาณน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก ที่ไหลล้นข้ามคันกันน้ำ และไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เจ้าของร้านขายของชำ อยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านหมอ เล่าว่า น้ำมาไว และไหลหลากเร็ว จนไม่สามารถเก็บสินค้าบางส่วนขึ้นจากน้ำได้ทัน
เช่นเดียวกับอีกหลายธุรกิจ เช่นอู่ซ่อมรถ ก็ต้องเร่งวางกระสอบทรายกั้นแนว สถานการณ์น้ำที่ไหลหลากขณะนี้ เกือบเท่าช่วงน้ำท่วมเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ปีนี้น้ำหลากมาไว และไม่ได้ไหลมาจากทิศทางที่น้ำเคยท่วมมาก่อน
นอกจากผลกระทบจากน้ำหลากท่วมเกือบ 2 เมตร ยังทำให้เกษตรกร ต้องนำอพยพสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง แต่ก็มีบ้างที่พาหนีน้ำไม่ทัน น้ำที่หลากมาไว ทำให้สภาพบ้านเรือนริมทาง ต้องเดินฝ่ากระแสน้ำบนถนน พร้อมข้าวของจำเป็นเพื่อออกไปหาเช่าบ้านในระหว่างที่น้ำยังท่วมสูงเกือบถึงชั้น 2
จะย้ายไปเช่าบ้านที่อื่น เขาคิดราคา 2,000 บาท แต่ถ้าเอาไม่อยู่จริงๆ
น้ำขี้นทุกวัน-นอนเต็นท์ริมถนนก็ยังไม่พ้น
ส่วนการอพยพออกจากบ้านของประชาชน หลายครอบครัวต้องมาอยู่เต็นท์พักข้างถนน บางคนอยู่ได้เพียงคืนเดียว ก็ต้องเผชิญสถานการณ์ซ้ำ จากมวลน้ำที่ไหลตามมา ทำให้ต้องประสบปัญหาห้องน้ำไม่มี หรือไม่เพียงพอ ชาวบ้านหมู่ 2 ต.บ้านครัว อ.บ้านครัว จ.สระบุรี บอกน้ำขึ้นทุกวัน
นายราเชนทร์ เดชะฤกษ์ ชาวบ้านหมู่ 8 ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี บอกว่า ความลำบากเรื่องที่นอน เพราะต้องมาอยู่เต็นท์บนถนน บางครอบครัวไม่ได้เตรียมผ้าใบไว้คลุมเวลาฝนตก ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย รวมทั้งห้องน้ำที่ลำบาก ส่วนชาวบ้านอีกคน ยอมรับว่า
ถึงแม้ว่าจะกั้นกระสอบทรายไว้แล้ว น้ำก็ยังพัดเข้า บ้านคนชั้นสอง พอย้ายออกมานอนเต็นท์ ก็ยังอยู่ไม่ได้ น้ำขึ้นเรื่อยๆ ทำอย่างไร ขอให้น้ำลดลงจะได้อยู่กันได้
นอกจากผลกระทบในชุมชน ยังพบว่าถนนสาย 3304 เส้นบ้านหมอ ที่เชื่อมไป อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรี อยุธยา เข้ากทม.มีเพียงรถใหญ่ ที่สัญจรผ่านได้ เฉพาะถนนบริเวณนี้ในต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ มีน้ำท่วมเป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร
สำหรับในพื้นที่ อ.บ้านหมอ อยู่ใกล้กับเขื่อนพระราม 6 และคลองระพีพัฒน์ ที่อยู่ในอ.ท่าเรือ ประมาณ 6-7 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านหลายคน ตั้งข้อสังเกตถึงน้ำที่ท่วมขังเพิ่ม และระบายไปลงเขื่อนได้ช้าโมีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 2,000 ครัวเรือน ในช่วงระยะเวลา 5 วันมานี้ที่น้ำหลากเข้าท่วม และยังอยู่ในทิศทางที่มวลน้ำแผ่ขยายวงกว้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม.จับตาสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวัง 11 ชุมชนนอกคันกั้นน้ำ