วันนี้ (20 ต.ค.2564) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยง และพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก หารือเรื่องเปิดประเทศ มีข้อสรุปเบื้องต้น ขอพิจารณาหลักในการเปิดประเทศประกอบด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ คือ มาตรการทางสาธารณสุข ภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และความสอดคล้องกับมาตรการเข้า-ออกประเทศอื่นๆ
พญ.สุมนี กล่าวว่า ข้อพิจารณาหลักทั้ง 3 ข้อ จะเป็นหลักในการพิจารณาเปิดประเทศ และรูปแบบในการพิจารณาเข้าประเทศนั้นแบ่งเป็น 3 รูปแบบใหญ่ คือ 1. การเข้ามาในสถานที่กับการที่รัฐกำหนดให้ เหมือนที่เคยกำหนดมาแต่เดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนไม่ครบแล้วเข้ามาในประเทศเราก็ต้องเข้าสู่มาตรการกักกัน ไม่ว่าจะเป็น 7,10,14 วันแล้วแต่กรณี
ส่วนรูปแบบที่ 2.แบบแซนด์บ็อกซ์ หรือแบบพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เพิ่งจะเกิดขึ้นในระยะที่หนึ่ง ใน 17 จังหวัดด้วย และ 3.แบบไม่กักตัว ซึ่งแบบที่ 2 และ 3 จะต้องมีเงื่อนไขคือต้องได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มเป็นหลัก
เปิดแนวทางรับผู้เดินทางเที่ยวไทย
สำหรับแนวทางรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย มีดังนี้
- เป็นผู้เดินทางมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และมาทางอากาศเท่านั้น
- เอกสารหรือหลักฐานได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
- ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ COVID-19 โดยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
- ทำประกันสุขภาพ อย่างน้อย 50,000 USD
- มีใบจองที่พัก
- เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยาน ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่กำหนดและตรวจหาเชื้อ โดยวิธีRT-PCR ในวันที่ 0-1
- ผลตรวจหาเชื้อ ไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางไปต่อได้ โดยไม่ต้องกักตัว
ทั้งนี้ พญ.สุมนี กล่าวว่า การประชุมเตรียมการเปิดประเทศ จะมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เป้าหมายหลักคือถึงแม้ว่าเปิดประเทศไปแล้ว คนไทยจะต้องมีความปลอดภัย ที่สำคัญระบบสาธารณสุขของไทยสามารถรองรับ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือต้องใช้แผนเผชิญเมื่อเกิดเหตุ หรือสถานการณ์ไม่คาดคิดไม่คาดฝันขึ้น โดยจะมีการรายงานผลการประชุม ศบค.ชุดเล็กเป็นระยะๆ
ส่วนช่วงวันหยุด 4 วันนี้ จะมีประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดเนื่องจากวันหยุดยาว ในการทำกิจการกิจกรรมใดๆขอให้ยังคงเข้มมาตรการส่วนบุคคล เน้นมาตรการป้องกันสูงสุดแบบครอบจักรวาล ถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง