ผลแล็บซาก "วัวแดง 2 ตัว" ป่าห้วยขาแข้ง ติดลัมปี สกิน

สิ่งแวดล้อม
22 ต.ค. 64
19:27
840
Logo Thai PBS
ผลแล็บซาก "วัวแดง 2 ตัว" ป่าห้วยขาแข้ง ติดลัมปี สกิน
ผลตรวจหาเชื้อที่ห้องปฏิบัติการ พบซากวัวแดง 2 วัว ป่าห้วยขาแข้ง ป่วยโรคลัมปี สกิน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งคุมเข้มห้ามลอบนำปศุสัตว์เข้าใกล้เขตป่า พร้อมติดกล้องดักถ่ายสังเกตอาการ

วันนี้ (22 ต.ค.2564) นายธวัชชัย เพชระบูรณิน รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยผลการชันสูตรชิ้นเนื้อของวัวแดงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ว่าเป็นโรคลัมปี สกิน หรือไม่ จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2564 พบซากวัวแดงที่เสือโคร่งล่าเป็นอาหาร โดยเป็นซากวัวแดงเพศผู้ อายุ 2 ปีครึ่ง - 3 ปี ลักษณะของซากยังใหม่ และมีร่องรอยถูกเสือโคร่งกินบริเวณสะโพกของวัวแดง และตามผิวหนังตรวจพบร่องรอยคล้ายโรคลัมปี สกิน ซึ่งนายสัตวแพทย์ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อและเลือดของซากวัวแดงดังกล่าว นำส่งชันสูตรที่ห้องปฏิบัติการ

ต่อมาสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้รับรายงานผลการวินิจฉัยจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนล่าง จ.พิษณุโลก แจ้งผลการตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส Lumpy skin disease virus (LSDV) จำนวน 1 ตัวอย่าง สรุปการวินิจฉัยได้ว่า วัวแดงป่วยเป็นโรคลัมปี สกิน

นอกจากนี้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ยังพบซากวัวแดงอีก 1 ตัว บริเวณใกล้จุดสกัดที่ 2 คลองขุนชาติ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจหาเชื้อที่ห้องปฏิบัติการ และทราบผลการชันสูตรว่า ซากวัวแดงดังกล่าวป่วยเป็นโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) เช่นเดียวกัน

ลาดตระเวนป้องกันนำปศุสัตว์เข้าใกล้เขตป่า

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 จึงได้ประสานงานกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ดำเนินการติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวัง และป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน โดยจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ และจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบนำปศุสัตว์มาเลี้ยงในพื้นที่ใกล้แนวเขต และให้นำกลับไปเลี้ยงใกล้พื้นที่ชุมชน, จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบ สังเกตอาการของสัตว์ป่าในกลุ่มวัวป่าและควายป่า ผลการลาดตระเวนไม่พบสัตว์ป่าในกลุ่มวัวป่าและควายป่าตายผิดปกติแต่อย่างใด และทำการฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ตามยานพาหนะ และจัดทำบ่อจุ่มเท้าฆ่าเชื้อโรคของบุคคลที่เข้ามายังสำนักงานเขตฯ โดยดำเนินการที่ด่านตรวจหน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งแฝก

ติดกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า

ทั้งนี้ ได้ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า บริเวณด่านสัตว์ โป่ง ที่มีร่องรอยของวัวแดงผ่าน และติดตั้งกับดักแมลงพาหะเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อลัมปี สกิน โดยคณะสัตวแพทย์จากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและเฝ้าระวังโรคลัมปี สกิน ถ่ายทอดความรู้และเทคนิคที่ถูกต้องในการทำโป่งเทียม เพื่อเป็นแหล่งเสริมธาตุอาหาร และคลังยา เป็นการช่วยเพิ่มความต้านทานโรคให้แก่สัตว์ป่า

เฝ้าระวัง "ลัมปี สกิน" รอบพื้นที่

นอกจากนี้ ประสานงานกับปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี ปศุสัตว์อำเภอลานสัก ปศุสัตว์อำเภอห้วยคต ปศุสัตว์อำเภอบ้านไร่ เพื่อสอบถามสถานการณ์ระบาด แนวทางการเฝ้าระวังป้องกัน การทำวัคซีนและมาตราการดำเนินงานของปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปศุสัตว์ จ.ตาก จ.สุพรรณบุรี และ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รวมทั้งแจ้งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เพื่อแจ้งให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติพุเตย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งทางทิศใต้ และแจ้งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) แจ้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก ซึ่งมีพื้นที่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทางทิศเหนือและทิศตะวันตก เฝ้าระวังโรคลัมปี สกิน

"หากพบสัตว์ป่าป่วย หรือซากสัตว์ป่า มีตุ่มขนาดใหญ่ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอัณฑะ และช่วงขา รวมทั้งสัตว์ป่าที่มีอาการเดินกะเผลก ให้แจ้งสัตวแพทย์เข้าดำเนินการตรวจสอบ และเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันสาเหตุของการป่วยหรือตาย"

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! กรมอุทยานฯ ยอมรับ "วัวแดง" ห้วยขาแข้งติดลัมปี สกิน 

กล้องดักถ่ายติดภาพ "วัวแดง" ห้วยขาแข้ง 2 ตัวติดลัมปี สกิน 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง